xs
xsm
sm
md
lg

“มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท” พาสื่อดูโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันโรงเรียน ตชด.นเรศวรป่าละอู

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ พาคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ เพื่ออาหารกลางวันของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอู อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ได้รับรางวัลกิจกรรมปศุสัตว์ดีเด่น อันดับ 1 ระดับประเทศ ในปี 2555 เผยทางมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท จะสานต่อโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ต่อเนื่อง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

วันนี้ (18 มี.ค.) ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) นเรศวรป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร.อ.คำนึก สมสม ครูใหญ่โรงเรียน ตชด.นเรศวรป่าละอู พร้อมคณะครู และเด็กนักเรียนได้ให้การต้อนรับคณะมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมสื่อมวลชนที่เดินทางเข้าไปเยี่ยมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ของโรงเรียน นำโดยนายสุปรีย์ เบ้าสิงห์สวย กรรมการและผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท

ทั้งนี้ ร.อ.คำนึก สมสม ครูใหญ่โรงเรียน ตชด.นเรศวรป่าละอู เปิดเผยว่า โรงเรียนนี้เปิดสอนมาตั้งแต่ปี 2526 ตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงชั้นประถมปีที่ 6 มีเด็กนักเรียนชาย-หญิงรวมในปัจจุบัน 224 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง ครอบครัวส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง และฐานะยากจน จึงทำให้นักเรียนมีภาวะทุพโภชนาการมากถึง 57 คน หรือคิดเป็น 25.5 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนทั้งหมด สำหรับโรงเรียนแห่งนี้มีครู ตชด.กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า เป็นครูผู้สอน

นายสุปรี เบ้าสิงห์สวย กรรมการและผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบในวันที่ 2 เมษายนนี้ ทางมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท และเครือเจริญโภคภัณฑ์ จึงได้สานต่อโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้น้อมนำแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งให้ความสำคัญโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน

ดังนั้น ทางมูลนิธิพัฒนาชนบท จึงเข้ามาจัดทำโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่เยาวชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ได้บริโภคไข่ไก่อาหารที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ เสริมสร้างโภชนาการที่ดีมาตั้งแต่ปี 2531 ซึ่งได้ให้การสนับสนุนโรงเรียนไปแล้ว 466 แห่ง

แบ่งเป็นโรงเรียนสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน 131 แห่ง โรงเรียนสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 315 แห่ง และส่งเสริมให้เยาวชนไทยกว่า 120,000 คน ได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และครูกว่า 8,000 คน ตลอดจนชุมชนกว่า 600 หมู่บ้าน ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว และจะมีการขยายผลเพิ่มในโรงเรียนอีก 50 แห่ง ในปี 2558 ซึ่งจะทำให้มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการกว่า 514 แห่งทั่วระเทศ

สำหรับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอู ทางทางมูลนิธิพัฒนาชนบท และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เข้าไปสนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันรุ่นแรก สามารถส่งเสริมนักเรียนในโรงเรียนมีภาวะโภชนาการที่ดีได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบัน โรงเรียนแห่งนี้ได้ลี้ยงไก่ไข่เป็นรุ่นที่ 8 ได้ลงไก่วันที่ 28 พฤษภาคม 2557 และจะปลดระวางในวันที่ 30 เมษายนนี้ มีไก่พันธุ์ จำนวน 200 ตัว โดยจะขายผ่านสหกรณ์ทั้งหมด

โครงการนี้นอกจากส่งเสริมให้นักเรียนได้บริโภคไข่ไก่แล้ว ยังช่วยทำให้นักเรียนพ้นจาภาวะทุพโภชนาการได้ในที่สุด ส่วนที่เหลือยังนำไปขายให้แก่ชุมชนในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทำให้ในวันนี้โรงเรียนแห่งนี้มีเงินกองทุนสะสมมากถึง 220,000 บาท อีกทั้งทางโรงเรียนยังได้รับรางวัลกิจกรรมปศุสัตว์ดีเด่น อันดับ 1 ระดับประเทศ ในปี 2555 ด้านการสร้างผลผลิตด้านการปศุสัตว์ เพื่อผลิตอาหารให้นักเรียนในโรงเรียนได้บริโภคครบทั้ง 5 หมู่

อีกทั้งมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท ยังได้ใช้รูปแบบบริหารเน้นการพึ่งตนเอง และทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงไก่ไข่มาถ่ายทอดความรู้ในการเลี้ยงไก่ที่ถูกต้องให้แก่ทั้งครู และนักเรียน รวมทั้งการสนับสนุนทุนการสร้างโรงเรือนและอุปกรณ์ ทั้งการให้พันธุ์ไก่ไข่ อาหารสัตว์ ทำให้ในปัจจุบันนี้นักเรียนที่นี่ได้ลงมือเลี้ยงไก่ไข่เอง สิ่งสำคัญนักเรียนยังได้รับไข่ไก่วันละ 5 ฟอง เป็นสิ่งตอบแทนในการเลี้ยงไก่ไข่อีกด้วย ซึ่งอนาคตก็จะส่งผลให้นักเรียนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต

“นักเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ต่างรู้สึกภูมิใจต่อโครงการอาหารกลางวัน ไม่เพียงในเรื่องของการเลี้ยงสัตว์ทั้งไก่ไข่ เป็ด และหมู แต่ที่นี่ยังมีแปลงเกษตร ทั้งพืชผักผลไม้ที่เด็กนักเรียนที่นี่ลงมือทำเอง สิ่งสำคัญสามารถนำมาเป็นอาหารกลางวันสำหรับพวกเขาเองอีกด้วย” นายสุปรี เบ้าสิงห์สวย กรรมการและผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น