นครปฐม - นายแพทย์สาธารณสุขนครปฐม เผยทาง รพ.ศูนย์นครปฐมได้ทำการรักษาและดูแลหญิงสาวนิรนามที่ถูกนำมาทิ้งปล่อยให้นอนหมดสติและยายวัย 70 ปี พิการขาเดินไม่ได้ ไม่มีบัตรประชาชนที่ป่วยมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบไม่มีญาติมาดูแลอย่างเต็มที่ ขณะที่ จนท.งานสังคมสงเคราะห์ฯ เร่งแกะข้อมูลตามหาญาติของทั้ง 2 ราย ยันหากทั้ง 2 ไม่มีญาติแพทย์ก้ยังคงรักษาเต็มที่ เผยผู้ว่าฯ นครปฐม ทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐมได้รับผู้ป่วยคือ น.ส.ฝน (ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล) อายุประมาณ 27-29 ปี ที่ถูกนำมาทิ้งปล่อยให้นอนหมดสติอยู่บริเวณริมถนนทางรถไฟตะวันตก ซึ่งมีอาการป่วยหนัก และคุณยายสมจิต บุญธรรม อายุ 70 ปีพิการขาเดินไม่ได้ ไม่มีบัตรประชาชน ที่ป่วยมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบและไม่ญาติมาคอยดูแล ซึ่งทั้งคู่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกอายุกรรมหญิงในห้องผู้ป่วยรวมของโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมนั้น
วันนี้ (6 มี.ค.) นายแพทย์บุญเรียง แสงชูรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ในส่วนของ น.ส.ฝน ที่ยังไม่มีญาติมาแสดงตัวนั้นทางทีมแพทย์ก็ได้มีรักษาไปตามกระบวนการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง และคงเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และได้ประสานไปยังงานสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ให้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้แล้ว
"สำหรับการรักษาทางแพทย์ได้มีการดูแลอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แม้จะไม่เป็นข่าวก็ตาม อย่างไรก็ตาม การที่นำเสนอภาพข่าวของผู้ป่วยออกไปก็ต้องใช้ความระมัดระวังด้วย เนื่องจากหากมีการแพร่ไปยังกระแสโลกออนไลน์ อาจจะทำให้คนที่ดูแล้วเกิดความไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแบบคลาดเคลื่อนได้" นายแพทย์บุญเรียง กล่าว
นายแพทย์บุญเรียง กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของ น.ส.ฝน ขณะนี้นายชูชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ทราบเรื่องแล้ว ส่วนการติดตามหาญาติของ น.ส.ฝนนั้นก็จะมีการกระบวนการในการติดตาม แม้ผู้ป่วยจะยังไม่มีสติพอที่จะจดจำญาติหรือคนรู้จักได้ก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของงานสังคมสงเคราะห์ที่จะต้องข้าไปดูแล ส่วนประเด็นที่ น.ส.ฝน ถูกนำมาทิ้งนั้นในส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องเข้าไปดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย
ด้านนางผานิต กุลสืบ หัวหน้างานสังคมสงเคราะห์โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เผยว่า ในกรณีของนางสมจิต บุญธรรม อายุ 70 ปีที่พิการขาเดินไม่ได้ ไม่มีบัตรประชาชน มีอาการเส้นเลือดในสมองตีบและไม่ญาติมาคอยดูแลนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งหาข้อมูลและญาติของคุณยายสมจิต แล้ว รวมทั้งกรณีของ น.ส.ฝนด้วย
"ถึงแม้ทั้ง 2 รายทางเจ้าหน้าที่จะยังติดตามญาติมาไม่ได้ แต่ทางหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ก็จะยังคงให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่เนื่องจากยังมีกองทุนในมูลนิธิคนไข้อาสา ซึ่งมีภาคเอกชนมีการสนับสนุนเงินในการให้การช่วยเหลือผู้ป่วยอนาถาอยู่แล้ว และยังได้มีการพยายามช่วยเหลือในการติดต่อทางญาติของผู้ป่วยทั้ง 2 รายไปพร้อมๆ กันด้วย โดยทราบว่ามีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาเก็บข้อมูลไปแล้วโดยจะมีการประสานความเหลือกันต่อไปด้วย" นางผานิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.วันนี้ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากญาติของผู้ป่วยที่อยู่ใกล้กับเตียงของ น.ส.ฝนว่าก่อนหน้านี้ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับ น.ส.ฝน พร้อมลูก ได้เข้ามาเยี่ยมอาการและได้พยายามเข้ามาพูดคุยกับ น.ส.ฝน แต่ก็เหมือนเดิม คือ ยังสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง และให้ข้อมูลเพียงว่า น.ส.ฝน เป็นคนไทยใหญ่ก่อนจะกลับไป
สำหรับอาการของ น.ส.ฝน วันนี้พบมีอาการซึมกว่าเมื่อวันก่อน และแพทย์ได้เจาะไขสันหลังเพื่อนำผลไปตรวจหาอาการต่างๆ แล้ว
ขณะเดียวกันกระแสในโลกออนไลน์ที่ได้ดูข่าวกรณีของ น.ส.ฝน ที่ถูกคนนำมาทิ้งให้นอนอยู่บนพื้น ซึ่งมีข้อกังขาว่าคนที่นำมาทิ้งเป็นใคร และเหตุใดชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวยังไม่พยายามที่จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ และนายกอล์ฟ กับนายบาส ที่ น.ส.ฝน ได้ถามถึงหลังมีสติขึ้นมาคือใคร และแท้จริง น.ส.ฝน เป็นใครเหตุใดยังไม่มีใครมาติดต่อแสดงตัวหลังจากมีการนำเสนอข่าวและนำภาพออกให้สังคมได้รู้เพื่อจะได้มีการเข้ามาติดต่อ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นวงกว้าง แต่ยังไร้วี่แววคนที่จะเข้ามาติดต่อแสดงตัวเป็นคนรู้จักและเป็นญาติ