ผอ.รพ.พุทธโสธร ยอมรับมีคนป่วยตายด้วยไข้กาฬหลังแอ่นจริง

ฉะเชิงเทรา - สสจ.แปดริ้ว พร้อม ผอ.รพ.พุทธโสธร ยอมรับ มีผู้ป่วยตายด้วยโรคกาฬหลังแอ่นจริง ปัดไม่ได้ปิดบังข้อมูลสื่อเพียงแต่รอผลความชัดเจนเรื่องผลการตรวจเชื้อจากห้องแล็ป ระบุโรคดังกล่วไม่เคยพบในพื้นที่มานานถึง 15 ปีเต็ม พร้อมปฏิเสธมีผู้ป่วยใน รพ.บ้านโพธิ์ ชี้เป็นเพียงแค่โรคคอตีบ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (6 มี.ค.) นพ.ประสิทธิ์ คงเคารพธรรม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นพ.วีระศักดิ์ อนุตรอังกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธโสธร (เมืองฉะเชิงเทรา) และคณะแพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกว่า 20 คน ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ ห้องประชุมตึกอำนวยการ ชั้น 2 โรงพยาบาลพุทธโสธร เพื่อแสดงความชัดเจนต่อกระแสข่าวการเสียชีวิตของหญิงชาวกัมพูชาวัย 26 ปี ผู้ป่วยโรคกาฬหลังแอ่น

โดยในการแถลงข่าวระบุว่า การเสียชีวิตของหญิงชาวกัมพูชา เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเพียงทางผ่านของโรคที่หญิงรายนี้เดินทางผ่านเข้ามาเพื่อกลับไปยัง ประเทศกัมพูชา ส่วนเหตุที่ไม่มีการแถลงชี้แจงให้สื่อมวลชนได้รับทราบตั้งแต่ต้น เพราะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ความชัดเจนเพื่อยืนยันโรคเท่านั้น และไม่ได้เป็นการปิดบังแต่อย่างใด

นพ.สมชาย แก้วเขียว รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่าขณะนี้ผลการตรวจสารคัดหลั่งของผู้ป่วยจากห้องแล็ป ยืนยันว่าผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่นจริง แต่ยังคงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์เกี่ยวกับชนิดและสายพันธุ์ของโรค จากการเพาะเชื้อทางห้องแล็ปของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่คาดว่าจะทราบผลภายในวันหรือ 2 วันนี้

“ทั้งนี้ เชื้อไข้กาฬหลังแอ่นเป็นเชื้อแบคทีเรีย ที่เคยระบาดในแถบทวีปแอฟริกา และตะวันออกกลาง หรืออาจเป็นเชื้อในพื้นที่แถบประเทศเพื่อนบ้านของเราเอง ซึ่งต้องยอมรับว่าผู้ป่วยนั้นได้รับเชื้อที่ค่อนข้างรุนแรง ประกอบกับการมีสุขภาพร่างกายที่อาจไม่แข็งแรงจึงทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 48 ชั่วโมง” นพ.สมชาย กล่าว

ขณะที่ พญ.รุจิรัตน์ ปุณยลิขิต รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ด้านระบบบริการสุขภาพชุมชน กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ไม่เคยพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้มานานถึง 15 ปีเต็มแล้ว โดยรายล่าสุดพบในเด็กวัย 5 ขวบ เมื่อกว่า 15 ก่อน ซึ่งเด็กที่ป่วยด้วยโรคนี้ในขณะนั้นเป็นผู้ที่มีร่างกายไม่สมบูรณ์มาแต่กำเนิด คือ ไม่มีม้ามที่จะดักจับกินเชื้อโรค จึงทำให้ป่วยด้วยโรคนี้ได้ง่าย และได้ทำการรักษาจนรอดชีวิตมาได้ จากนั้นก็ไม่พบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคนี้อีก

ด้าน นพ.ประสิทธิ์ คงเคารพธรรม สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า พบผู้ป่วยด้วยโรคไข้การหลังแอ่นอีกหลายรายยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านโพธิ์นั้น ขอยืนยันว่าผู้ป่วยดังกล่าวไม่ได้ป่วยด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่น แต่ป่วยด้วยโรคคอตีบ ส่วนผู้ใกล้ชิดหรือสัมผัสโรคที่ต้องกักตัวเพื่อเฝ้าระวังและรอดูอาการนั้น มีเพียงสามีของผู้เสียชีวิตชาวกัมพูชาเท่านั้น และหลังการกักบริเวณผ่านมา 2 วันก็ยังไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใด

นอกจากนี้ สำนักงานฯ ยังได้ส่งทีมเฝ้าระวังลงพื้นที่เพื่อสืบสวนโรคแล้ว พร้อมทั้งยังให้ยาแก่กลุ่มคนที่เชื่อว่า อยู่ใกล้ชิดและสัมผัสโรคจำนวน 227 ราย ทั้งในแคมป์คนงานโรงปูน โดยขณะนี้จึงยังถือว่าโรคดังกล่าวไม่ได้อยู่ในขั้นของการระบาดแต่อย่างใด