ฉะเชิงเทรา - ชาวแปดริ้วผวาโรคไข้กาฬหลังแอ่นระบาด หลังเกิดข่าวลือพบคนไทยที่เข้ารักษาตัวยังโรงพยาบาลบ้านโพธิ์ อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรคอีก 5 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 มี.ค.) ได้เกิดกระแสข่าวแพร่สะพัดตามหมู่บ้าน และชุมชนที่อยู่ใกล้กับบ้านของผู้ป่วยหญิงชาวกัมพูชาที่เพิ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลพุทธโสธร เมื่อ 2 วันก่อน ด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่น ซึ่งเป็นโรคที่หายสาบสูญจากประเทศไทยนานนับ 10 ปี ว่า ยังมีผู้ป่วยที่คาดว่าจะได้รับเชื้อดังกล่าวเพิ่มอีก 1 คน โดยเป็นคนไทยที่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านโพธิ์ และขณะนี้อยู่ระหว่างเฝ้าระวังโรคอีก 5 ราย
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือสะพัดอีกว่า สามีของผู้ป่วยหญิงชาวกัมพูชาที่เพิ่งเสียชีวิตซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวด้วยกัน ได้ถูกกักตัวเพื่อเฝ้าระวังโรคอยู่ภายในโรงพยาบาลพุทธโสธรอีก 1 ราย แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีอาการของโรค
หลังเกิดข่าวลือดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริงจนทราบว่า หญิงชาวกัมพูชาที่เสียชีวิต ได้เข้ามาทำงานอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา นานกว่า 1 ปี ด้วยการเป็นลูกจ้างให้แก่นายจ้างคนไทยซึ่งมีอาชีพขายยำคอหมูย่างตามตลาดนัดต่างๆ ในเขตอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา รวมทั้งตลาดนัดหน้าห้างสรรพสินค้าตะวันออกคอมเพล็กซ์ ซึ่งถือเป็นจุดเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด หรือการกระจายของเชื้อโรคไปยังประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายสินค้า
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตรายนี้ได้ลาออกจากงานเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้ออกเดินสายหางานทำ และเร่ขายแรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ก่อนจะกลับเข้ามายังจังหวัดฉะเชิงเทราอีกครั้ง เพื่อเตรียมเดิมทางกลับประเทศ ในวันที่ 2 มี.ค.แต่กลับเริ่มมีอาการไข้ระหว่างนั่งบนรถตู้โดยสารที่กำลังเดินทางออกจากสถานีขนส่งสายใต้มุ่งหน้าโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ผู้ป่วยรายดังกล่าวจึงลงรถที่บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าตะวันออกคอมเพล็กซ์ เพื่อไปพักอาศัยอยู่ในบ้านพักคนงานของพี่ชายสามีที่ทำงานอยู่ในแคมป์ปูน ภายในซอยวัดนาคู ตำบลบางพระ ซึ่งมีคนงานต่างด้าว และคนไทยหลายสิบคนพักอาศัยอยู่ด้วย และอาการไข้เริ่มทรุดหนักลง
โดยมีอาการชักเกร็ง และช็อกหยุดนิ่งนานถึง 5 นาที จากนั้นจึงเริ่มมีผื่นขึ้นที่ใบหน้า พร้อมมีอาการเซื่องซึม จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางกะไห และถูกส่งต่อมารักษาตัวยังโรงพยาบาลพุทธโสธร กระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว