xs
xsm
sm
md
lg

ส.นักข่าวจี้จัดการอาสาแสบยัดยานักข่าวพัทยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมนักข่าวพัทยาร้องตำรวจจัดการอาสาแสบยัดยานักข่าวท้องถิ่น เบื้องต้น ส่งยาตรวจพิสูจน์พร้อมดำเนินคดีแม้เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ เผยเตรียมมาตรการคุมเข้มอาสาแก้ปัญหาภาพลักษณ์การทำงานตำรวจ

จากกรณีเหตุการณ์ที่ นายทิวากร กฤษมณี อายุ 25 ปี ผู้สื่อข่าว นสพ.พัทยาพีเพิล ประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร พร้อมด้วยอาสาสมัครทำการเรียกตรวจค้นเพื่อกวดขันวินัยจราจร ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่นายหนึ่งทราบชื่อภายหลังว่า นายพงษ์สวัสดิ์ วิเศษศรี อายุ 42 ปี สวมหมวกแก๊ปสีดำ เสื้อคลุมสีดำ พกวิทยุสื่อสาร ซึ่งอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสา พยายามจะยัดยาเสพติดโดยกล่าวหาว่า นายทิวากร เป็นเจ้าของห่อยาเสพติด ซึ่งได้ทิ้งลงพื้นก่อนถูกเรียกเข้าตรวจสอบ

แต่ต่อมาภายหลัง นายทิวากร ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจโดยร้องขอให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบประวัติ และผลปัสสาวะ รวมทั้งให้ นายพงษ์สวัสดิ์ ยืนยันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทั่งมีกลุ่มนักข่าวท้องถิ่นอีกจำนวนหนึ่งเดินทางตามมาสมทบ นายพงษ์สวัสดิ์ จึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและพยายามบ่ายเบี่ยงพร้อมขอโทษถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยแจ้งว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ซึ่งต่อมา นายทิวากร ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ นายพงษ์สวัสดิ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (2 มี.ค.) นายทิวากร พร้อมกลุ่มผู้สื่อข่าวสังกัดสมาคมนักข่าวเมืองพัทยา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธวัชชัย สุดสาคร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อให้เร่งรัดในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้เชิญตัว นายพงษ์สวัสดิ์ คู่กรณีเข้าร่วมสอบถาม ซึ่งเบื้องต้น เจ้าตัวให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้กล่าวหา นายทิวากร แต่อย่างใด เพียงแต่พบห่อยาบางอย่างถูกทิ้งไว้ใกล้เคียงกัน จึงนำไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทำการตรวจสอบเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่านายพงษ์สวัสดิ์ กล่าวหา นายทิวากร จริง ทางเจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานพร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท.ธวัชชัย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนคู่กรณีทั้งสองฝ่ายยังคงให้การขัดแย้งกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็คงต้องลงบันทึกไว้ พร้อมส่งเรื่องดำเนินคดีตามขั้นตอนเพื่อให้ไปพิสูจน์ทราบกันในชั้นศาล ส่วนยาที่ตรวจพบขณะนี้ยังคงตอบไม่ได้ว่าเป็นยาเสพติดชนิดใด แต่ก็ได้นำส่งพิสูจน์ยังหน่วยงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ และขอยืนยันว่า จะดำเนินการไปตามขั้นตอนและให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบนั้นพบว่า นายพงษ์สวัสดิ์ ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาแต่อย่างใด เป็นเพียงเจ้าพนักงานที่ทางตำรวจเรียกมาใช้งานในการยก และเก็บรักษารถจักรยานยนต์ที่ถูกตรวจยึดเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากความเป็นห่วงของผู้คนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาบางนายที่อาจมีพฤติกรรมนอกรีตนั้น จากนี้ทาง สภ.เมืองพัทยา จะมีมาตรการคุมเข้มในการตรวจสอบและกลั่นกรองบุคลากรที่จะเข้ามาช่วยงานราชการอย่างจริงจัง พร้อมให้เจ้าหน้าที่ทุกนายที่ออกปฏิบัติหน้าที่ต้องแต่งเครื่องแบบ พร้อมแสดงบัตรประจำตัวที่ชัดเจน

อีกทั้งการทำงานทุกครั้งต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งหากพบเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรายใดมีพฤติกรรม และสร้างปัญหาก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันภาพลักษณ์ที่จะเสียหายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น