ฉะเชิงเทรา - พระพรหม วัดชมโพธยาราม ที่รอดพ้นจากเงื้อมมือโจรให้โชคทีมงานผู้สื่อข่าว หลังแสดงปาฏิหาริย์ให้ลาภเล็กๆ น้อยๆ แก่หนึ่งในทีมงานผู้สังเกตเห็นลวดลายบนแผ่นทองคำเปลวที่ถูกปิดไว้บนหน้าอกเป็นเลขเสี่ยงทายผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อวันวาน ส่วนความคืบหน้าของคดียังไร้วี่แววในการติดตามทวงคืน 4 เทวรูปที่สูญหายไป
วันนี้ (2 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ 4 เทวรูปเก่าแก่ตามความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ ประกอบด้วย ฤาษีตาไฟ 2 ตน พร้อมด้วยพระนารายณ์ทรงโค และพระนารายณ์ทรงนกยูง ได้ถูกโจรใจบาปลักษณะรูปร่างใหญ่อ้วนท้วมได้เข้ามาขโมยไป จากวัดชมโพธยาราม ตั้งอยู่ริมถนนสายฉะเชิงเทรา-บางปะกง เลขที่ 94 ม.1 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ก.พ.58 ที่ผ่านมานั้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปทำข่าวอย่างต่อเนื่อง และถ่ายภาพพระพรหม และพระนารายณ์แผงศร ส่วนที่เหลือรอดพ้นจากการถูกขโมยไปมาด้วยนั้น ปรากฏว่า ทีมงานของผู้สื่อข่าว จ.ฉะเชิงเทรา ได้สังเกตเห็นในภาพถ่ายซึ่งมีแผ่นทองคำเปลวที่ถูกปิดไว้บนหน้าอกของพระพรหมนั้น ได้ปรากฏร่องรอยซึ่งเป็นตัวเลขขึ้นมาให้ทีมงานผู้สื่อข่าวได้เห็น และได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการเสี่ยงทายผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อวันวานที่ผ่านมานั้น
ปรากฏว่า ทีมงานได้รับโชคลาภจากผลการเสี่ยงทายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทั้งที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ทีมงานผู้นี้เป็นบุคคลซึ่งไม่เคยมีลาภทางด้านนี้มากก่อนมากนัก จึงเชื่อว่าอาจเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ หรือปาฏิหาริย์ของพระพรหม จนเป็นเรื่องแปลกที่ไม่สามารถที่จะหาเหตุผลใดมาอธิบายได้มากนัก
ขณะเดียวกัน พระมหาศุภกร ศรจันทึก อายุ 37 ปี พรรษา 13 พระลูกวัดชมโพธยาราม ยังกล่าวเปิดเผยด้วยว่า แผ่นทองที่ถูกปิดไว้บริเวณหน้าอกของพระพรหมนั้น เป็นแผ่นทองเก่าที่ไม่ทราบว่าถูกปิดไว้มาตั้งแต่เมื่อใด แต่หลังจากที่ประชาชนได้ทราบข่าวในการหายไปของเทวรูปโบราณเก่าแก่ทั้ง 4 องค์แล้ว ได้ทำให้ภายในวัดมีประชาชน และนักท่องเที่ยวพากันเดินทางเข้ามายังวัดชมโพธยาราม เพิ่มมากขึ้นถึงกว่า 2 เท่าตัว
โดยจากเดิมในวันปกติธรรมดาจะมีผู้คนเดินทางมาทำบุญ หรือสะเดาะเคราะห์น้อย แค่เพียงวันละประมาณ 5-6 ราย ปัจจุบันได้มีประชาชนเดินทางเพิ่มเข้ามามากขึ้นถึงว่า 10 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่าที่จะมาแสวงบุญ และมักจะเข้ามาสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี และการติดตามทวงคืนเทวรูปทั้ง 4 ที่สูญหายไปนั้นว่าได้กลับคืนมาหรือไม่อย่างไร
ขณะที่ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ยังมีนักท่องเที่ยวที่พากันเดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยมีทั้งเหมารถตู้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังที่วัดชมโพธยาราม เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยถึงกว่า 2 เท่าตัวเช่นเดียวกัน พระมหาศุภกร กล่าว
ด้าน พระมหาประยอม กัลยาโณ อายุ 38 ปี พรรษา 12 เจ้าอาวาสวัดชมโพธยาราม กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือแจ้งกลับมายังทางวัดจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่าทางตำรวจน่าจะกำลังอยู่ระหว่างการติดตามสืบหาคนร้าย และเทวรูปทั้ง 4 องค์ ที่ถูกขโมยไปอยู่ ทางวัดจึงยังคงต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำงานต่อไปอีกสักระยะ ซึ่งถ้าหากได้เทวรูปกลับคืนมาเมื่อใด ทางวัดจะรีบแจ้งให้ทางผู้สื่อข่าวทราบในทันทีด้วยเช่นเดียวกัน