ฉะเชิงเทรา - เทวรูปเก่าแก่ตามความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ หายไปจากแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในตัวเมืองแปดริ้ว หลังตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดย้อนรอย พบโจรรูปร่างอ้วนแอบย่องฉกขโมยไปตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าตรู่ ด้านตำรวจเชื่อคนร้ายน่าจะเป็นนักสะสมของเก่า หรือเซียนพระที่แฝงเข้ามาในกลุ่มผู้แสวงบุญในช่วงเทศกาล ก่อนฉวยโอกาสขณะพระในวัดออกบิณฑบาตย่องเข้ามาฉกเอาไป
วันนี้ (19 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.30 น. ร.ต.ท.สมพร กระฉอดนอก ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจาก พระสมชาย กิตติสาโร พรรษา 19 พระลูกวัดชมโพธยาราม ตั้งอยู่เลขที่ 94 ม.1 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ดูแลสถานที่ศาลาของทางวัดว่า เทวรูปที่นำมาตั้งประดิษฐานประกอบหิ้งบูชาพุทธรูป ภายในศาลาสะเดาะเคราะห์ได้ถูกโจรกรรมหายไป จำนวน 4 องค์ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน
ในที่เกิดเหตุพบผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจอาสาประจำตำบล กำลังยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ สอบถาม พระสมชาย กล่าวว่า เมื่อกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ทางวัดได้นำเทวรูปเนื้อทองเหลืองขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 5 นิ้ว เป็นเทวรูปพ่อแก่ (ฤาษี) 2 ตน และพระนารายณ์ทรงโค 1 องค์ พระนารายณ์ทรงนกยูง 1 องค์ รวม 4 องค์ ซึ่งเป็นของเก่าแก่ที่มีญาติโยมในสมัยก่อนได้นำมาถวายให้แก่ทางวัดเก็บรักษาไว้ ภายในเจดีย์พุทธคยา แต่ทางวัดนั้นต้องการให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้แสวงบุญได้มีโอกาสกราบไหว้
จึงได้นำออกมาวางประดับอยู่เคียงข้างโต๊ะหมู่แทนบูชาพระพุทธรูป ภายในศาลาสะเดาะเคราะห์ ของทางวัด แต่มาในวันนี้ได้สังเกตเห็นว่า เทวรูปเก่าแก่ทั้งหมดรวม 4 องค์ ได้หายไปจากแท่นบูชาแล้ว ทางวัดจึงได้ทำการเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดดูจึงพบว่า ได้มีชายรูปร่างอ้วน ลักษณะค่อนข้างสูง ได้แอบเดินเข้ามาหยิบขโมยใส่ย่ามที่สะพายมาด้วยไปตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า เวลา 06.27 น.ของวันนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ปลอดจากผู้คน เนื่องจากเป็นช่วงที่พระสงฆ์ภายในวัด จำนวน 19 รูป สามเณรอีก 5 รูปนั้นส่วนใหญ่ได้ออกไปบิณฑบาตจนเกือบหมดวัด
สำหรับวัดที่เกิดเหตุแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของทางจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มักมีคณะทัวร์พากันเดินทางมาเดินสายแบบการทำบุญ 9 วัด เนื่องจากมีความโดดเด่นในด้านของเจดีย์พุทธฅยาจำลอง (เจดีย์ตรัสรู้) หรือสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า รูปทรงสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณริมถนนสายฉะเชิงเทรา-บางปะกง (สิริโสธร) พร้อมยังมีเจดีย์ปฐมเทศนา และสังเวชนียสถานของพระพุทธเจ้าประกอบ อาคารโบสถ์ ศาลา ที่มีการออกแบบก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานซึ่งเป็นลักษณะเด่นเฉพาะที่ไม่เหมือนกับวัดใดๆ ในบริเวณนี้
ด้าน ร.ต.ท.สมพร กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเดินทางปะปนแอบเข้ามาพร้อมกับนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่เดินทางมาทำบุญภายในวัด เพื่อเข้ามาดูลาดเลาไว้ก่อนล่วงหน้า จากนั้นจึงได้ใช้โอกาสช่วงที่ปลอดจากผู้คนแอบเดินทางเข้ามาขโมยไป เนื่องจากพยานหลักฐานที่ได้จากภาพกล้องวงจรปิดนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนร้ายนั้นได้เดินพุ่งตรงเข้าไปหยิบเอาเทวรูปทั้ง 4 องค์ไปจากบริเวณที่หน้าแท่นบูชาพระพุทธเลยในทันที
จึงเชื่อว่าคนร้ายนั้นรู้จุดหมายว่าสิ่งของมีค่า หรือสิ่งที่ต้องการนั้นวางอยู่ตรงบริเวณจุดใด ก่อนที่จะเลือกใช้โอกาสในช่วงที่พระออกบิณฑบาตเข้ามาขโมยเอาไป ซึ่งหลังจากนี้จะได้นำพยานหลักฐานที่ได้ไปให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นนักนิยมพระเครื่อง และชอบสะสมของเก่า เพราะขณะก่อเหตุนั้นคนร้ายแขวนห้อยพระเครื่องมาเต็มคออีกด้วย
