ฉะเชิงเทรา - ตะลึง! ราคาขายปลีกลอตเตอรี่เมืองแปดริ้วสุดโหด เย้ย คสช.และรัฐบาล “ประยุทธ์” หลังเคยตีปี๊บแก้แต่ไม่สำเร็จในยุคแรก ผงะ! พบราคาขายแบบหวยชุด 10 คู่ โขกถึงชุดละ 2,000 บาท หรือเท่ากับขายแพงถึงคู่ละ 200 บาท ในตลาดค้าลอตเตอรี่ย่านแหล่งท่องเที่ยวดัง ส่วนราคาแผงเร่ขายปลีกคู่ละ 120 บาท ด้านผู้ขายระบุจำเป็นต้องขูดจากผู้ซื้อ เหตุต้นทุนมาแพงตั้งแต่ต้นทาง วอนรัฐบาลจัดการระดับนายทุน หลังเดือดร้อนแบบถ้วนหน้าเพราะขายยาก
วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีนักเสี่ยงโชคจำนวนมากได้ร้องเรียนผ่านทางสื่อให้ช่วยส่งต่อความเดือดร้อนนี้ไปให้ถึงยังหูของคนในรัฐบาล และ คสช.ว่า ปัจจุบันราคาขายลอตเตอรี่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรานั้น ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ทำการขายกันแบบขูดรีดในราคาที่สูงมาก หรือแพงกว่าราคาขายที่ถูกตีพิมพ์ระบุไว้ที่บนหน้าสลากจากราคาคู่ละ 80 บาท เป็นคู่ละ 200 บาทนั้น
โดยเฉพาะผู้ค้าฯ ในย่านแหล่งท่องเที่ยว หรือแหล่งแสวงบุญชื่อดังต่างๆ นั้น แม่ค้าขายลอตเตอรี่โขกสับผู้ซื้อด้วยการขายสลากฯ แบบหวยชุด ซึ่งมีเลขเหมือนกัน 10 คู่ ในราคาสูงถึงชุดละ 2,000 บาท หรือเท่ากับขายแพงถึงใบละ 200 บาท
โดยเฉพาะผู้ค้าสลากในบริเวณวัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ด้านฝั่งเมรุเก่านั้น จะฉวยโอกาสสอบถามเลขเด็ดจากผู้ซื้อว่าต้องการเลขอะไร และหากในแผงนั้นมีเลขเด็ดตรงกันกับใจของผู้ซื้อที่ต้องการแสวงหานั้น จะยิ่งบอกราคาโก่งจนสูงเกินกว่าราคาหน้าสลากถึงกว่า 250 เปอร์เซ็นต์ หรือชุดละ 2,000 บาท รวมสลาก 10 คู่
กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่กลับไร้ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาทำการควบคุมดูแล หรือจัดการ ตลอดจนรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ได้เคยมีนโยบาย และมีความพยายามที่จะเข้ามาทำการปรับแก้ไข ปัญหาการขายสลากเกินราคาตั้งแต่ในช่วงยุคแรกที่ได้เข้ามาบริหารประเทศ แต่แล้วสุดท้ายกลับล้มเหลวอีกเช่นกัน จนมาตกสู่ในสภาพการขายสลากฯ ที่ “ยิ่งแพงกว่า” ในปัจจุบัน
ส่วนราคาขายปลีกสลากกินแบ่งรัฐบาลของแม่ค้าแผงเร่ แผงพับแบบเดินขายนั้น พบว่า ราคาสลากใบเดี่ยว หรือ 1 คู่ นั้นขายในราคาคู่ละ 120 บาท และหากเป็นแบบหวยชุดเหมือน 5 ใบ ขายที่ราคา 600-700 บาท ชุด 10 ใบ ขายที่ 1,300-1,400 บาท
ขณะที่นางเอ (นามสมมติ) แม่ค้าขายสลากเร่ กล่าวว่า เหตุที่ต้องขายสลากในราคาสูงถึงคู่ละ 120 บาทนั้น เนื่องจากต้นทุนของสลากที่ได้รับมาขยับเพิ่มขึ้นมาอีกถึงคู่ละ 105-107 บาท จากราคาก่อนหน้านี้ที่เคยรับมา ในราคาคู่ละ 97-98 บาท โดยราคาส่งลอตเตอรี่ดังกล่าวได้ขยับแพงขึ้นมาจากชั้นยี่ปั๊ว มาเป็นเวลานานถึง 3-4 งวด แล้ว คือ ขยับจาก 97 บาท มาเป็น 107 บาท จึงทำให้เราจำเป็นที่จะต้องขายในราคาที่สูงขึ้นถึงคู่ละ 120 บาท จึงจะอยู่ได้
“ฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยหาทางทำให้ราคาส่ง หรือราคาต้นทุนลดลงมาให้มากกว่านี้ด้วย เนื่องจากหลังจากราคาลอตเตอรี่ มีราคาขายแพงขึ้น ก็ยิ่งทำให้การขายปลีกนั้นยากขึ้นไปด้วย เพราะมีนักเสี่ยงโชคหลายรายที่เห็นว่าเราขายสลากในราคาที่สูงขึ้น พวกเขาก็ไม่ซื้อ แต่เราก็จำเป็นต้องขายในราคานี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ” นางเอ กล่าว
ด้านนางบี (นามสมมติ) กล่าวว่า เพราะไม่มีเงินทุนเราซึ่งเป็นแม่ค้าขายปลีกจึงจำเป็นต้องไปพึ่งเงินลงทุนมาจากนายทุน (ยี่ปั๊ว) ด้วยการไปรับเอาลอตเตอรี่มาจากยี่ปั๊วที่ลงทุนไปให้ก่อน แล้วหลังจากนั้น เมื่อขายลอตเตอรี่ได้หมดจึงค่อยนำเงินไปจ่ายคืนให้แก่เขา ซึ่งเราก็จะเสียดอกเบี้ยในส่วนนี้ให้แก่นายทุนที่ไปรับลอตเตอรี่มาให้แก่เราอีกในอัตราร้อยละ 2 ซึ่งปกติตนเองก็จะไปรับลอตเตอรี่มาจำนวนงวดละ 5 หมื่นบาท ก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้นายทุนอีกงวดละ 1,000 บาท
วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีนักเสี่ยงโชคจำนวนมากได้ร้องเรียนผ่านทางสื่อให้ช่วยส่งต่อความเดือดร้อนนี้ไปให้ถึงยังหูของคนในรัฐบาล และ คสช.ว่า ปัจจุบันราคาขายลอตเตอรี่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรานั้น ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ทำการขายกันแบบขูดรีดในราคาที่สูงมาก หรือแพงกว่าราคาขายที่ถูกตีพิมพ์ระบุไว้ที่บนหน้าสลากจากราคาคู่ละ 80 บาท เป็นคู่ละ 200 บาทนั้น
โดยเฉพาะผู้ค้าฯ ในย่านแหล่งท่องเที่ยว หรือแหล่งแสวงบุญชื่อดังต่างๆ นั้น แม่ค้าขายลอตเตอรี่โขกสับผู้ซื้อด้วยการขายสลากฯ แบบหวยชุด ซึ่งมีเลขเหมือนกัน 10 คู่ ในราคาสูงถึงชุดละ 2,000 บาท หรือเท่ากับขายแพงถึงใบละ 200 บาท
โดยเฉพาะผู้ค้าสลากในบริเวณวัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ด้านฝั่งเมรุเก่านั้น จะฉวยโอกาสสอบถามเลขเด็ดจากผู้ซื้อว่าต้องการเลขอะไร และหากในแผงนั้นมีเลขเด็ดตรงกันกับใจของผู้ซื้อที่ต้องการแสวงหานั้น จะยิ่งบอกราคาโก่งจนสูงเกินกว่าราคาหน้าสลากถึงกว่า 250 เปอร์เซ็นต์ หรือชุดละ 2,000 บาท รวมสลาก 10 คู่
กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่กลับไร้ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาทำการควบคุมดูแล หรือจัดการ ตลอดจนรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ได้เคยมีนโยบาย และมีความพยายามที่จะเข้ามาทำการปรับแก้ไข ปัญหาการขายสลากเกินราคาตั้งแต่ในช่วงยุคแรกที่ได้เข้ามาบริหารประเทศ แต่แล้วสุดท้ายกลับล้มเหลวอีกเช่นกัน จนมาตกสู่ในสภาพการขายสลากฯ ที่ “ยิ่งแพงกว่า” ในปัจจุบัน
ส่วนราคาขายปลีกสลากกินแบ่งรัฐบาลของแม่ค้าแผงเร่ แผงพับแบบเดินขายนั้น พบว่า ราคาสลากใบเดี่ยว หรือ 1 คู่ นั้นขายในราคาคู่ละ 120 บาท และหากเป็นแบบหวยชุดเหมือน 5 ใบ ขายที่ราคา 600-700 บาท ชุด 10 ใบ ขายที่ 1,300-1,400 บาท
ขณะที่นางเอ (นามสมมติ) แม่ค้าขายสลากเร่ กล่าวว่า เหตุที่ต้องขายสลากในราคาสูงถึงคู่ละ 120 บาทนั้น เนื่องจากต้นทุนของสลากที่ได้รับมาขยับเพิ่มขึ้นมาอีกถึงคู่ละ 105-107 บาท จากราคาก่อนหน้านี้ที่เคยรับมา ในราคาคู่ละ 97-98 บาท โดยราคาส่งลอตเตอรี่ดังกล่าวได้ขยับแพงขึ้นมาจากชั้นยี่ปั๊ว มาเป็นเวลานานถึง 3-4 งวด แล้ว คือ ขยับจาก 97 บาท มาเป็น 107 บาท จึงทำให้เราจำเป็นที่จะต้องขายในราคาที่สูงขึ้นถึงคู่ละ 120 บาท จึงจะอยู่ได้
“ฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยหาทางทำให้ราคาส่ง หรือราคาต้นทุนลดลงมาให้มากกว่านี้ด้วย เนื่องจากหลังจากราคาลอตเตอรี่ มีราคาขายแพงขึ้น ก็ยิ่งทำให้การขายปลีกนั้นยากขึ้นไปด้วย เพราะมีนักเสี่ยงโชคหลายรายที่เห็นว่าเราขายสลากในราคาที่สูงขึ้น พวกเขาก็ไม่ซื้อ แต่เราก็จำเป็นต้องขายในราคานี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ” นางเอ กล่าว
ด้านนางบี (นามสมมติ) กล่าวว่า เพราะไม่มีเงินทุนเราซึ่งเป็นแม่ค้าขายปลีกจึงจำเป็นต้องไปพึ่งเงินลงทุนมาจากนายทุน (ยี่ปั๊ว) ด้วยการไปรับเอาลอตเตอรี่มาจากยี่ปั๊วที่ลงทุนไปให้ก่อน แล้วหลังจากนั้น เมื่อขายลอตเตอรี่ได้หมดจึงค่อยนำเงินไปจ่ายคืนให้แก่เขา ซึ่งเราก็จะเสียดอกเบี้ยในส่วนนี้ให้แก่นายทุนที่ไปรับลอตเตอรี่มาให้แก่เราอีกในอัตราร้อยละ 2 ซึ่งปกติตนเองก็จะไปรับลอตเตอรี่มาจำนวนงวดละ 5 หมื่นบาท ก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้นายทุนอีกงวดละ 1,000 บาท
