ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่สั่งการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดและสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด เร่งให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้พิการที่ถูกหลอกเอาเอกสารสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านไปจดจัดตั้ง หจก.ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จังหวัดเลย โดยที่ผู้เสียหายไม่รู้เรื่องจนกระทั่งตกเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี คาดมีคนตกเป็นเหยื่อหลายร้อยราย พร้อมยืนยันให้การช่วยเหลือเต็มที่ และต้องจับคนผิดมาลงโทษ
วันนี้ (20 ก.พ. 58) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มผู้พิการทางการได้ยินและผู้พิการทางสมองที่ตกเป็นผู้เสียหายจากกรณีถูกหลอกให้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้าน พร้อมลงลายมือชื่อ แล้วมีการนำไปจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด ทำธุรกิจค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จังหวัดเลย โดยที่ผู้เสียหายไม่ทราบ จนกระทั่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีไม่ส่งรายงานงบการเงินประจำปีตามที่กฎหมายกำหนดและถูกหมายเรียกจากสถานีตำรวจภูธรเมืองเลย ได้เข้าพบกับนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากกรณีที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เชิญผู้แทนจากสำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือกับทางกลุ่มผู้เสียหาย
โดยได้ข้อสรุปว่าจะมอบหมายให้ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการให้ความช่วยเหลือทางด้านคดี ด้วยการรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายและเอกสารหลักฐานต่างๆ แล้วประสานกับทางพนักงานสอบสวนที่จังหวัดเลยให้
ส่วนสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นผู้รับบันทึกถ้อยคำจากทางผู้เสียหาย โดยให้ผู้เสียหายไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจแล้วเข้าให้ถ้อยคำกรณีดังกล่าว เพื่อรวบรวมให้ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ เพื่อที่ผู้เสียหายจะได้ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่จังหวัดเลย ซึ่งเบื้องต้นเป็นที่พอใจของกลุ่มผู้เสียหาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า จากการตรวจสอบรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ ตามที่ผู้เสียหายได้ให้ไว้ ตามรูปการณ์แล้วเชื่อได้ว่าทางผู้เสียหายน่าโดนหลอก เพราะทราบว่าช่วงปลายปี 2557 มีผู้มาขอรวบรวมเอกสารไปจากผู้เสียหาย อ้างว่าเพื่อนำไปใช้ขอรับเงินช่วยเหลือให้ผู้เสียหายที่ทั้งหมดล้วนแต่เป็นผู้พิการประเภทต่างๆ ซึ่งบางคนแทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะไปจดจัดตั้งและเป็นกรรมการในห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้ ยืนยันว่าทางจังหวัดเชียงใหม่จะดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายในกรณีทุกคนอย่างเต็มที่ ด้วยการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับเรื่องและดำเนินการให้ความช่วยเหลือ โดยที่ผู้เสียหายซึ่งคาดว่าน่าจะมีกว่า 300 คนไม่ต้องเดินทางไปจังหวัดเลย
ขณะเดียวกันจะมีการตรวจสอบด้วยว่าผู้ใดที่เป็นผู้ทำการรวบรวมเอกสารดังกล่าวและมีเจตนาที่จะนำไปดำเนินการโดยมิชอบหรือไม่ หากพบว่าตั้งใจกระทำผิดก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่ามีอยู่รายหนึ่งเป็นครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนที่ผู้เสียหายเคยศึกษาอยู่
นางสาวมนัสนันท์ ตั้งธนวรวัทน์ ผู้ปกครองของนักศึกษาผู้พิการทางการได้ยินที่ตกเป็นผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้พิการในจังหวัดเชียงใหม่ทยอยได้รับหมายเรียกในลักษณะเดียวกันนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากการตรวจสอบรายชื่อผู้พิการจากจังหวัดเชียงใหม่ที่มีชื่อจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดกับสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดเลย พบว่ามีมากกว่าพันรายชื่อ จึงเชื่อว่าจำนวนผู้เสียหายน่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ
พร้อมกันนี้ บอกด้วยว่าครูที่เป็นผู้รวบรวมเอกสารจากกลุ่มเด็กพิการที่ตกเป็นผู้เสียหาย ได้พยายามติดต่อกับเด็กที่เสียหายเพื่อชักจูงใจไม่ให้ดำเนินการใดๆ ในเรื่องนี้ และให้ทิ้งหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนไปแล้วเรื่องจะจบเอง อย่างไรก็ตาม ทางผู้เสียหายไม่เชื่อและยืนยันจะดำเนินการเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร ซึ่งพิการทางการได้ยินที่ได้รับหมายเรียกกว่า 10 รายแล้ว ยังมีผู้เสียหายที่เป็นนักเรียนและศิษย์เก่าของโรงเรียนกาวิละอนุกูล ซึ่งพิการทางสมอง และกลุ่มผู้พิการที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ อีกเป็นจำนวนมากที่ถูกหมายเรียกเช่นกัน โดยคาดว่าเวลานี้ในจังหวัดเชียงใหม่น่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกหมายเรียกจากกรณีเดียวกันนี้กว่า 100 คนแล้ว