พะเยา - ชาวบ้านตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด พร้อมติดตามความคืบหน้ากรณีขอให้ช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินกว่า 100 ไร่ที่บริษัทเอกชนซื้อไว้ทั้งหมดและเตรียมไล่ที่ชาวบ้านออกทั้งหมดอ้างซื้อและได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างถูกกฎหมาย
วันนี้ (13 ก.พ.) ชาวบ้านใน ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา กว่า 50 คน ซึ่งนำโดยนางนงค์นุช วงศ์แก้ว อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/1 ม.5 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้พากันเดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดพะเยา เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินกว่า 100 ไร่ที่ชาวบ้านซื้อมาจากเจ้าของเดิมเป็นที่ทำกินและที่อยู่อาศัย ซึ่งขณะนี้กำลังจะถูกนายทุนฮุบที่ดังกล่าวทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
โดยนางนงค์นุช วงศ์แก้ว ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้เข้ามาร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพะเยาเพื่อให้แก้ไขปัญหากรณีชาวบ้านตำบลอ่างทองได้ซื้อที่ดินของนายเทียนชัย เห็งตระกูล ประมาณกว่า 100 ไร่ ซึ่งในขณะนั้นยังไม่ได้ออกเป็นโฉนดที่ดิน แต่เจ้าของระบุว่าจะมีการออกโฉนดให้ภายหลัง โดยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดิน ต่อมานายเทียนชัยได้เสียชีวิตลง และทายาทได้ดำเนินการทำสัญญาอีกครั้ง ซึ่งชาวบ้านอ้างว่าได้จ่ายเงินให้เจ้าของที่ดินแล้ว แต่มิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ต่อมาชาวบ้านมาทราบภายหลังว่าที่ดินดังกล่าวเจ้าของได้นำไปจำนองไว้ และอยู่ในกรรมสิทธิ์ของกรมบังคับคดี และมีนายทุนรายหนึ่งซื้อจากกรมบังคับคดี จนในที่สุดนายทุนรายดังกล่าวได้ขายให้บริษัท เทอราโกร จำกัด ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากกำลังจะถูกไล่ที่ จึงได้เดินทางมาร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและได้พากันเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในวันนี้
นางนงค์นุช ตัวแทนชาวบ้านระบุว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านตำบลอ่างทองเคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแล้ว ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพะเยา รวม 3 ครั้ง และร้องไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้แก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ผ่านมาเป็นเวลานานก็ยังไม่ชัดเจนในเรื่องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ชาวบ้านจึงรวมตัวกันเดินทางมาขอความชัดเจนในครั้งนี้ เพราะหากปล่อยให้นายทุนไล่ที่ ชาวบ้านจำนวน 43 รายก็จะเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยทันที จึงวอนขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาให้ด้วย เพราะชาวบ้านได้ทำกินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 แล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพะเยาระบุว่า จังหวัดพะเยา โดยศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องจากชาวบ้านและสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี โดยได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้พิจารณาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าวแล้วว่าสามารถออกเป็นโฉนดที่ดินได้ ไม่เป็นที่ดินต้องห้ามและได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ของบริษัท เทอราโกร จำกัด ผู้ถือกรรมสิทธิ์ โดยมีการจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินถูกต้อง และชอบโดยกฎหมาย
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านอ้างสิทธิการครอบครองการทำประโยชน์บนที่ดินเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงสิทธิในการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว โดยชาวบ้านสามารถเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลได้
