นครปฐม - ชาวบ้านสงสัยแจ้ง 191 พบชายลักษณะต้องสงสัย “ฆาตกรกามวิปริต” ข่มขืนผู้สูงอายุต่อเนื่อง 10 คดี สายตรวจรุดตรวจสอบโดดล็อกตัวทันที พบกลายเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาตามหาน้องสาว ขณะที่คนร้ายตัวจริงยังลอยนวล
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งมีผู้พบชายต้องสงสัยคล้ายคนร้ายที่ปรากฏในภาพสเกตช์ในคดีคนร้ายก่อเหตุฆ่าและข่มขืน ทำร้ายผู้สูงอายุ 10 คดี ซึ่งมีค่าหัวในการติดตามตัว 2 แสนบาท โดยก่อเหตุในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม พบอยู่ในพื้นที่ตำบลกระตีบ อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.พีรพล ไชยพงศ์ ผกก.สภ.กระตีบ อำเภอกำแพงแสน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าพื้นที่ติดตามตัว โดยประสานกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ให้ปิดเส้นทางและนำกำลังร่วมกันเข้าจับกุมชายต้องสงสัยที่มีลักษณะต้องสงสัยตามที่รับแจ้ง
เมื่อไปถึงชายคนดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทาง แต่ไปไม่รอดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ โดยมีชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างพากันเข้ามาดูตัว และส่งข่าวสารแชร์กันในโลกโซเชียล ว่า สามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนผู้สูงอายุได้แล้ว
จากนั้น พ.ต.อ.พีรพล ไชยพงศ์ ผกก.สภ.กระตีบ ได้นำตัวชายคนดังกล่าวมาทำการสอบสวน พบว่า เป็นชาวพม่าชื่อ นายไวยนัย อายุ 43 ปี ซึ่งได้เข้ามาในประเทศได้ระยะหนึ่งแล้ว และกำลังจะไปตามหาน้องสาวแต่ไม่มีเงิน จึงใช้วีธิเดินเท้าเพื่อจะตามหาน้องสาว
แต่เมื่อมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายไวยนัย เกิดความตกใจจึงจะพยายามหลบหนี เนื่องจากใบอนุญาตเข้าประเทศหมดอายุ ทางเจ้าหน้่าที่ตำรวจจึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมืองและใบอนุญาตหมดอายุ
จากนั้นได้ควบคุมตัวไปทำการเก็บหลักฐานที่ สภ.พุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล ซึ่งมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามตัวคนร้าย ที่กองบังคับฝึกอบรมตำรวจกลาง ตั้งเป็นวอร์รูมอยู่ เพื่อเก็บ DNA เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าใช่ฆาตกามวิปริต หรือไม่
พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี เปิดเผยว่า ในการเผยแพร่ข้อมูลในโลกโซเชียล ว่า สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้วนั้น ไม่เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด และมีการแจ้งข้อมูลมาที่ 191 ในพื้นที่ภาค 7 เป็นจำนวนมาก และตำรวจก็มีการออกลาดตระเวน โดยมีชุดเฉพาะกิจอินทรีย์ 7 ทุกวัน เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายและป้องกันเหตุ โดยยังมีการติดตามคนร้ายในทางสืบสวนอย่างเข้มข้นเหมือนเดิม มีข้อมูลเพิ่มเติมมาจากสายสืบอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้จับตัวคนร้ายได้ตามที่มีข่าวลือแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า หลังจากจับกุมชายคนดังกล่าว พบว่าเป็นคนต่างด้าวชาวพม่า แต่คนร้ายที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมอยู่นั้นตามหลักฐานเป็นคนไทยที่พูดชัดเจน ไม่ตรงกับเป้าหมายที่มีการควบคุม ซึ่งตอนนี้ได้วางทีมงานติดตามข้อมูลในทุกช่องทาง และพร้อมนำกำลังเข้าจับกุมคนร้ายทันทีตามที่พบเบาะแส จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจจนเกินไป และตำรวจยังไม่ลดความพยายามในการติดตามคนร้าย
