นครปฐม - ตำรวจชักมืดแปดด้านในการติดตามไล่ล่า “ฆาตกรกามวิปริต” ผู้ต้องคดีข่มขืนต่อเนื่องผู้สูงวัย ขณะที่มีเบาะแสสะพัดมาจากหลายพื้นที่ จนเจ้าหน้าที่ 191 เริ่มอึดอัดหลังมีการกระหน่ำโทร.แจ้งเบาะแสเพื่อหวังเงินรางวัลนำจับหลายแสนบาท
วันนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ท.โสภน พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะติดตามคลี่คลายคดีข่มขืนต่อเนื่อง ซึ่งเกิดเหตุมาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน รวม 10 คดี ซึ่งจากการตรวจดีเอ็นเอ พบว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุคนเดียวกัน และมีพฤติกรรมเป็นกามวิปริต เป็นบุคคลอันตรายในสังคม
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดความเคลื่อนไหวการประชุมติดตามการทำงาน โดยมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการวอร์รูมอยู่ที่ศูนย์ฝึกกองบังคับการสอบสวนกลาง ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อรายงานติดตามผลอย่างเร่งด่วน โดยก่อนหน้าได้มีการนำผู้ต้องสงสัย 2 ราย คือ อดีตผู้ต้องขัง และช่างไฟฟ้ามาทำการตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจากมีภาพที่คล้ายกับภาพสเกตช์ แต่ปรากฏว่า ผลที่ออกมาไม่ตรงกับหลักฐานจึงได้ปล่อยตัวออกไป
ก่อนหน้านั้น พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าในพื้นที่เขต อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้มีคนร้ายพยาข่มขืนหญิงสูงวัย เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวานนี้ จึงได้ไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวนภูธรภาค 7 และตำรวจกองปราบปราม แต่ปรากฏพบว่าเป็นเพียงการพยายามจะชิงทรัพย์ของคนร้าย หรือคนร้ายอาจจะสร้างสถานการณ์เพื่อให้เหตุการณ์คล้ายกัน จึงทำให้ผู้เสียหายที่กำลังขวัญเสียต่อมาตกรกามวิปริต ที่เจ้าหน้าที่ยังจับกุมตัวไม่ได้ จึงได้โทร.แจ้ง 191 จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าพื้นที่ไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ได้มีคนโทร.แจ้งเบาะแสเข้ามายัง 191 อีกเป็นจำนวนมากอีกเช่นกัน ทั้งนี้ เนื่องจากประชาชนยังคงหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงกลุ่มคนที่พยายามจะรับเงินรางวัลค่านำจับผู้ต้องหารายนี้ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งรางวัลนำจับไว้หลายแสนบาท เมื่อได้เบาะอะไรมาจึงโทร.แจ้งเข้าไปยัง 191 จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างรอบคอบ และเริ่มอึดอัด
“ปัญหาที่พบ คือ การมีข่าวลือทั้งในพื้นที่จังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ว่า มีการพบคนร้าย หรือพบคนลักษณะคล้ายกับคนร้าย เช่น มีข่าวลือว่าพบคนร้ายที่พื้นที่ตำบลลำพยา อำเภอเมืองนครปฐมบ้าง แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังไปตรวจสอบก็ไม่พบคนร้ายแต่อย่างใด” แหล่งข่าวเผย
อีกทั้งช่วงระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สนธิกำลังกับทหาร จากกรมการสัตว์ทหารบก ให้ออกตรวจสอบตามแหล่งงานก่อสร้าง เรือกสวนไร่น่าที่มีคนงานลักษณะคล้ายกันทั้งกายภาพ และพื้นที่แบบ 24 ชั่วโมง เรียกว่าเป็นการพลิกแผ่นดินตามหา เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายยังไม่ได้หนีออกไปนอกพื้นที่ โดยคืนที่ผ่านมา ได้มีการปล่อยแถวระดมกวาดกลางทั้งในเมืองและนอกเมืองนครปฐม เช่น ในสวนที่มืด และส่งชุดสืบสวนไปซุ่มดูในจุดต่างๆ ที่เสี่ยงที่คนร้ายจะก่อเหตุได้
ส่วนการตรวจสอบสารเคมีที่ใช้เบื่อสุนัขของคนร้ายออกมาแล้วพบว่า เป็นสารแลนเนทที่ใช้ฆ่าหญ้า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปูพรมแบบเดินเท้าทุกซอยเพื่อเข้าถึงจุดเกิดเหตุก่อนหน้า
