โฆษก ตร. เผยคุมชายต้องสงสัยฆาตกามต่อเนื่องหญิงชราในพื้นที่ภาค 7 พบประวัติเคยก่อคดีข่มขืน ลุ้นผลตรวจดีเอ็นเอพรุ่งนี้
วันนี้ (30 ม.ค.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าคดีคนร้ายข่มขืน ทำร้าย ฆ่า หญิงชราต่อเนื่อง 10 คดี ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และ นครปฐม ว่า ล่าสุดวันนี้ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 ราย ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานตรงกับคนร้ายตามคำให้การของผู้เสียหาย โดยเป็นชายอายุ 43 ปี ส่วนสูงประมาณ 170 ซม. ผิวคล้ำ ร่างกายบึกบึนกำยำ มีกล้ามเนื้อ และโครงหน้าใกล้เคียงกับภาพสเกตช์ สอดคล้องคำให้การของพยาน โดยจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยต้องโทษคดีข่มขืนหญิงในพื้นที่ กทม. เมื่อปี 2536 และพ้นโทษเมื่อปี 2551 พื้นเพอยู่ทางภาคเหนือ และในช่วงหลังพ้นโทษมาอาศัยทำงานในจ.สมุทรสงคราม อย่างไรก็ตาม ได้เก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยรายนี้ไปตรวจเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของคนร้ายแล้ว ภายในวันพรุงนี้ (31 ม.ค.) ก็จะทราบผลว่าตรงกันหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. ว่า ขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ลงพื้นที่โดยรอบ โดยมีกก.3.บก.ป. ตรวจสอบที่ อ.แม่กลอง และพื้นที่โดยรอบ กก.4.บก.ป. ตรวจสอบที่ อ.บางคนที และในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม กก.5.บก.ป. ดูที่ อ.นครไชยศรี รวมทั้งพื้นที่คาบเกี่ยวใน จ.นครปฐม กก.6.บก.ป. ดูเส้นทางตั้งแต่จ.สมุทรสงคราม ขึ้นมา เพื่อหาพยานแวดล้อมและบุคคลต้องสงสัยตามที่พยานบอกมา ซึ่งทางกองปราบพอจะมีแนวทางบ้างแล้ว หลังจากที่ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียด ในคดีนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวคนร้ายจนติดตามตัวไม่ได้ ยังมีหลักฐานอีกหลายอย่างที่ทางกองปราบฯได้มา
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวด้วยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายอยู่ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่เป็นอดีตทหารและช่างไฟฟ้าที่ชุดทำงานกองปราบ ได้มานั้น จากการตรวจสอบดีเอ็นเอ แล้วปรากฏว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอของคนร้ายที่ทางตำรวจมีอยู่แต่อย่างใด