รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ(สพฐ.ตร.) พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ในคดีคนร้ายก่อคดีข่มขืนหญิงชราต่อเนื่อง ในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม ตั้งแต่ปี 2553-2557 โดยมี พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน7 ร่วมประชุม
พล.ต.ท.มนู กล่าวว่า ขณะนี้ยังรอผลการตรวจดีเอ็นเอในคดีที่เกิดขึ้นล่าสุด ในท้องที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นคดีที่ 10 เบื้องต้นเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกันทั้ง 10 คดี ขณะนี้รอผลการตรวจเปรียบเทียบตัวอย่างดีเอ็นเอ หากผลตรวจออกมาก็จะสามารถยืนยันได้ว่าตรงกับคดีก่อนหน้านี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม พบว่าแผนประทุษกรรมของทั้ง 10 คดี มีความสอดคล้องตรงกัน คือ คนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว ไม่สวมรองเท้า มีการปีนเข้าทางหน้าต่าง โดยใช้อุปกรณ์งัดแงะที่หาได้จากสถานที่เกิดเหตุ โดยเลือกเวลาก่อเหตุ ช่วงเวลา 01.00-03.00 น. ขณะที่ผลการตรวจที่เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากวัตถุพยาน อาทิ ปลอกหมอน ที่นอน ตามตัวผู้เสียหาย ของทั้ง 9 คดี เป็นของคนเดียวกัน โดยไม่มีดีเอ็นเอของบุคคลอื่นมาปะปน
นอกจากนี้ จากภาพสเกตช์และตำหนิรูปพรรณที่ได้รับข้อมูลจากเหยื่อ เชื่อได้ว่าเป็นคนเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวอย่างดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่เก็บได้ไปเทียบกับฐานข้อมูลอาชญากรยังไม่พบว่าตรงกับผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีต่างๆ ที่มีอยู่ในสารบบ ทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องสงสัย 5 ราย มาเปรียบเทียบ โดยเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และรอยเท้า แต่ก็ยังไม่ตรงกับดีเอ็นเอของผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตามหากมีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ก็สามารถนำตัวมาตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบ ก็จะสามารถยืนยันตัวผู้กระทำผิดได้อย่างชัดเจน
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 ลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุหมู่ 1 ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายก่อเหตุเป็นกรณีล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายได้วางยาเบื่อฆ่าสุนัขก่อนก่อเหตุด้วย โดยเจ้าหน้าที่ทำการสูบน้ำในบ่อปลาหลังบ้านเพื่อตรวจสอบดูว่าภายในบ่อน้ำดังกล่าวมีสารพิษหรือไม่ เนื่องจากว่าพบปลาตายในบ่อน้ำที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก แต่จากการตรวจสอบไม่พบสารพิษแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะละลายไปหมดแล้ว
ขณะที่พ.ต.อ.พิทักษ์ รัตนสุภา ผกก.สภ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม พร้อมนายตำรวจในสังกัด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.บางยี่รงค์ ต.บ้านปราโมทย์ และ ต.บางคนที ที่คนร้ายเคยก่อเหตุข่มขืนหญิงสูงวัย เพื่อวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจจะย้อนกลับมาก่อเหตุในพื้นที่ สภ.บางคนทีอีก เนื่องจากเป็นสถานที่ที่เคยก่อเหตุมาก่อน และมีสภาพเป็นสวน จึงรีบวางมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุร้าย โดยตำรวจชุดสืบสวน และสายตรวจรถยนต์จะออกตรวจสอบสัญญาณไซเรนที่ทาง สภ.บางคนที เคยนำไปติดตั้งไว้ตามบ้านผู้สูงอายุที่เห็นว่าเสี่ยงประมาณ 50 หลังคาเรือน ในพื้นที่เสี่ยง 6 ตำบล คือ ต.บางยี่รงค์ ต.บ้านปราโมทย์ ต.บางคนที ต.บางนกแขวก ต.บางพรม และ ต.ยายแพง พร้อมเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุที่ถูกข่มขืนทั้ง 4 ราย แต่พบว่า ส่วนใหญ่ย้ายออกไปแล้ว เหลืออยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข่าวสารที่ดูเป็นเรื่องเล็ก แต่กระทบต่อความเชื่อมั่นของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น ข่าวข่มขืนผู้สูงอายุ และกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขว้างระเบิด ซึ่งได้มอบหมายให้ตำรวจเร่งดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีที่สร้างความไม่สบายใจให้ประชาชนเป็นอย่างมาก
พล.ต.ท.มนู กล่าวว่า ขณะนี้ยังรอผลการตรวจดีเอ็นเอในคดีที่เกิดขึ้นล่าสุด ในท้องที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นคดีที่ 10 เบื้องต้นเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกันทั้ง 10 คดี ขณะนี้รอผลการตรวจเปรียบเทียบตัวอย่างดีเอ็นเอ หากผลตรวจออกมาก็จะสามารถยืนยันได้ว่าตรงกับคดีก่อนหน้านี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม พบว่าแผนประทุษกรรมของทั้ง 10 คดี มีความสอดคล้องตรงกัน คือ คนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว ไม่สวมรองเท้า มีการปีนเข้าทางหน้าต่าง โดยใช้อุปกรณ์งัดแงะที่หาได้จากสถานที่เกิดเหตุ โดยเลือกเวลาก่อเหตุ ช่วงเวลา 01.00-03.00 น. ขณะที่ผลการตรวจที่เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากวัตถุพยาน อาทิ ปลอกหมอน ที่นอน ตามตัวผู้เสียหาย ของทั้ง 9 คดี เป็นของคนเดียวกัน โดยไม่มีดีเอ็นเอของบุคคลอื่นมาปะปน
นอกจากนี้ จากภาพสเกตช์และตำหนิรูปพรรณที่ได้รับข้อมูลจากเหยื่อ เชื่อได้ว่าเป็นคนเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวอย่างดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่เก็บได้ไปเทียบกับฐานข้อมูลอาชญากรยังไม่พบว่าตรงกับผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีต่างๆ ที่มีอยู่ในสารบบ ทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องสงสัย 5 ราย มาเปรียบเทียบ โดยเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และรอยเท้า แต่ก็ยังไม่ตรงกับดีเอ็นเอของผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตามหากมีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ก็สามารถนำตัวมาตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบ ก็จะสามารถยืนยันตัวผู้กระทำผิดได้อย่างชัดเจน
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 ลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุหมู่ 1 ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายก่อเหตุเป็นกรณีล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายได้วางยาเบื่อฆ่าสุนัขก่อนก่อเหตุด้วย โดยเจ้าหน้าที่ทำการสูบน้ำในบ่อปลาหลังบ้านเพื่อตรวจสอบดูว่าภายในบ่อน้ำดังกล่าวมีสารพิษหรือไม่ เนื่องจากว่าพบปลาตายในบ่อน้ำที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก แต่จากการตรวจสอบไม่พบสารพิษแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะละลายไปหมดแล้ว
ขณะที่พ.ต.อ.พิทักษ์ รัตนสุภา ผกก.สภ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม พร้อมนายตำรวจในสังกัด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.บางยี่รงค์ ต.บ้านปราโมทย์ และ ต.บางคนที ที่คนร้ายเคยก่อเหตุข่มขืนหญิงสูงวัย เพื่อวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจจะย้อนกลับมาก่อเหตุในพื้นที่ สภ.บางคนทีอีก เนื่องจากเป็นสถานที่ที่เคยก่อเหตุมาก่อน และมีสภาพเป็นสวน จึงรีบวางมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุร้าย โดยตำรวจชุดสืบสวน และสายตรวจรถยนต์จะออกตรวจสอบสัญญาณไซเรนที่ทาง สภ.บางคนที เคยนำไปติดตั้งไว้ตามบ้านผู้สูงอายุที่เห็นว่าเสี่ยงประมาณ 50 หลังคาเรือน ในพื้นที่เสี่ยง 6 ตำบล คือ ต.บางยี่รงค์ ต.บ้านปราโมทย์ ต.บางคนที ต.บางนกแขวก ต.บางพรม และ ต.ยายแพง พร้อมเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุที่ถูกข่มขืนทั้ง 4 ราย แต่พบว่า ส่วนใหญ่ย้ายออกไปแล้ว เหลืออยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข่าวสารที่ดูเป็นเรื่องเล็ก แต่กระทบต่อความเชื่อมั่นของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น ข่าวข่มขืนผู้สูงอายุ และกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขว้างระเบิด ซึ่งได้มอบหมายให้ตำรวจเร่งดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีที่สร้างความไม่สบายใจให้ประชาชนเป็นอย่างมาก
