กาฬสินธุ์ - เจ้าคณะอำเภอหนองกุงศรี (ธ) นำชาวบ้านประกอบพิธีบูชา ขุดต้นตะเคียนทองขึ้นจากลำห้วยใหญ่ หลังชาวบ้านพากันหวาดผวาอาถรรพ์ ไม่กล้าเข้าไปใกล้ทั้งที่เป็นพื้นที่ทำมาหากินตั้งแต่ปู่ย่าตายาย
วันนี้ (25 ม.ค.) ชาวบ้านหมู่ 2 บ้านหนองสรวง ต.หนองสรวง อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ นิมนต์พระครูสุธีวรสาร เจ้าคณะอำเภอหนองกุงศรี เจ้าอาวาสวัดหนองสรวง ประกอบพิธีทางศาสนาที่บริเวณแปลงนาของนายทองสา เชื้อแก้ว อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านพบว่ามีต้นตะเคียนทองขนาดใหญ่ล้มพาดขวางลำห้วย และยังได้เชิญนายทอง กุดวิสัย อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นหมอธรรมชื่อดังของ จ.กาฬสินธุ์ มาประกอบพิธีเพื่อสื่อสารกับดวงวิญญาณ ก่อนจะนำต้นตะเคียนทองขึ้นจากลำห้วย
ในพิธีเจ้าแม่ต้นตะเคียนทองได้อนุญาตให้เคลื่อนย้ายออกจากบริเวณดังกล่าวได้ แต่เมื่อทำการขุดขึ้นมาแล้วชาวบ้านจะต้องแห่ต้นตะเคียนรอบหมู่บ้านก่อน ซึ่งชาวบ้านต้องสวมเสื้อสีเขียว และทาปากสีแดง ซึ่งหมอธรรมได้ถามความพร้อมจากชาวบ้าน เมื่อทุกคนรับปากว่าทำได้ เจ้าแม่ตะเคียนทองที่สื่อสารผ่านมายังร่างหมอธรรมจึงได้อนุญาตให้ดำเนินการขุดได้
โดยการขุดครั้งนี้ได้ใช้รถแบ็กโฮขนาดใหญ่มาขุดบริเวณที่ชาวบ้านอ้างว่าพบต้นตะเคียนทองก่อนหน้านั้นหลายปี ซึ่งใช้เวลาขุดนานเกือบ 4 ชม.จึงพบโคนต้นตะเคียนทอง และได้ยกขึ้นมาจากลำห้วย ทำความสะอาด และจะประกอบพิธีก่อนจะแห่เข้าหมู่บ้านนำไปตั้งไว้ที่วัดหนองสรวง ซึ่งเป็นวัดอยู่ในหมู่บ้าน
พระครูสุธีวรสารกล่าวว่า ก่อนหน้านั้นได้ยินคำร่ำลือของอาถรรพ์ และความเฮี้ยนของต้นตะเคียนมานานมากแล้ว แต่เมื่อให้ชาวบ้านพาไปดูก็ไม่มีใครกล้าพาไป เพราะทุกคนอยู่ในอาการหวาดผวาเกรงจะได้รับอาถรรพ์จากต้นตะเคียนทองมาก เพราะมีชาวบ้านได้เจอเข้ากับตัว โดยอ้างว่าใครที่เข้าไปตัดหรือเข้าไปรบกวนต้นตะเคียนทอง เจ้าแม่ที่ดูแลรักษาอยู่ก็จะมาทำร้ายคนในครอบครัวผู้นั้นทุกคน
จนกระทั่งได้เกิดนิมิตขึ้นเมื่อประมาณ 1 ปี หลังจากท้าทายไปว่าหากมีความศักดิ์สิทธิ์จริงขอแสดงให้ได้รับรู้ ซึ่งนิมิตที่เห็นนั้นเห็นว่าเป็นลำแสงสีทองคล้ายพญานาคพุ่งมาจากลำห้วยใหญ่และวิ่งเข้าไปหาในวัดเข้าชนทางหัวเข่าด้านซ้ายอย่างแรง จากการพูดคุยกันจึงได้รู้ว่าเป็นเจ้าแม่ตะเคียนทองชื่อ “กุหลาบ” มีความโกรธแค้นมาก เพราะก่อนหน้านั้นมีคนเข้าไปตัดลำต้นเพื่อนำไปขาย
แต่ตอนนี้อยากที่จะเข้าไปอยู่ในวัดเพราะไม่อยากให้ใครเข้ามารบกวน และตัดลำต้นไปอีก จึงขอให้นำขึ้นมาจากน้ำด้วย
พระครูสุธีวรสารกล่าวว่า เมื่อเห็นว่าเวลาสมควรจึงได้นัดชาวบ้านนำเครื่องจักรมาขุดลำห้วยเพื่อนำต้นตะเคียนทองขึ้นมา ซึ่งต้นตะเคียนทองที่ขุดขึ้นมาเป็นท่อนไม้ขนาดใหญ่ วัดโดยรอบประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 3.20 เมตร ส่วนที่สองเป็นช่วงลำต้นและราก ซึ่งสังเกตเห็นได้ว่าเนื้อไม้ข้างในนั้นมีสีเหลืองทองสวยงามมาก จากนี้ชาวบ้านจะทำความสะอาด ตกแต่งต้นตะเคียนทองให้สวยงาม พร้อมจัดหานางรำใส่เสื้อสีเขียว ทาปากสีแดง แห่รอบหมู่บ้าน และนำไปไว้ที่วัดข้างกุฏิเจ้าอาวาส
ด้านนายเสมียน สีมี อายุ 49 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านหนองสรวง ซึ่งเป็นผู้ที่ประสบความเฮี้ยนของต้นตะเคียนทองด้วยตนเอง เล่าว่า เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ตนและพรรคพวกประมาณ 5 คนได้เจอท่อนไม้ขนาดใหญ่ในลำห้วยใหญ่ซึ่งพาดขวางลำห้วยอยู่ มีลักษณะที่สวยงาม จึงได้ไปติดต่อซื้อกับเจ้าของที่นา เพราะเมื่อแรกเห็นมีความต้องการที่จะนำไปทำเรือ จึงตกลงซื้อขายกันในราคา 300 บาท
โดยการเข้าไปตัดครั้งแรกได้ไม้ท่อนปลายไปประมาณ 4 ศอก รอบที่ 2 ประมาณ 8 ศอก ซึ่งเมื่อตัดท่อนไม้แล้วจึงรู้ว่าเป็นไม้ตะเคียน แต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไรเพราะไม่ค่อยเชื่อเรื่องทางนี้เท่าใดนัก ไม้ที่เอาขึ้นมาได้ขายต่อไปยังชาวบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกัน และทันทีที่ได้ไม้ไปผู้ที่ซื้อไม้นั้นก็เสียชีวิตกะทันหัน ซึ่งก็ยังไม่คิดอะไร จนนัดแนะกับพรรคพวกกลุ่มไปขนไม้ขึ้นมาเพื่อที่จะใช้ทำเรือจริงๆ เมื่อประมาณกลางปี 2557
แต่ไม่สามารถเอาขึ้นมาได้ เพราะระหว่างที่จะลงไปในน้ำ และจะเอาเลื่อยตัดท่อนไม้ก็มีลมกระโชกแรง และมีฟ้าผ่า ที่แปลกที่สุดพายุและฟ้าผ่ามีแค่ตรงที่บริเวณต้นตะเคียนอยู่เท่านั้นจนไม่สามารถเข้าไปเอาไม้ที่อยู่ในน้ำได้ และมีพรรคพวกถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน จากนั้นมาก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ที่แห่งนี้อีก
กระทั่งท่านเจ้าอาวาสได้มาพูดคุยจึงยอมมาช่วยเหลือการขุด และย้ายต้นตะเคียนในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ต้นตะเคียนที่ถูกนำขึ้นมานั้นชาวบ้านยังไม่กล้าที่จะเข้าไปจับต้อง เพียงแต่ดูอยู่ห่างๆ คาดว่าน่าจะยังหวาดผวา และเกรงกลัวความเฮี้ยนและอาถรรพ์ของต้นตะเคียนทองนี้ แต่คาดว่าเมื่อข่าวแพร่สะพัดไปน่าจะมีประชาชนและนักเสี่ยงโชคจากทั่วสารทิศแห่มาชมต้นตะเคียนทองจำนวนมาก