“ทิดเกษม” ยังอยู่ดีมีสุข เผยเคยถูกไล่พ้นยกวัด-สั่งให้สึกมาแล้ว

เพชรบูรณ์ - “ทิดเกษม” อดีตพระฉาวเสพกามพระลูกวัด-ศิษย์ใกล้ชิด ยังอยู่ดีมีสุขในที่พักสงฆ์น้ำหนาว เผยก่อนหน้านี้เคยถูกคณะสงฆ์เมืองมะขามหวานไล่พ้นพื้นที่ยกวัด เจ้าคณะอำเภอเมืองอุดรฯ สั่งสละสมณเพศมาแล้ว แต่กลับครองผ้าเหลือง จนก่อเหตุฉาวตุ๋ยพระลูกวัด-ศิษย์ได้อีก

วันนี้ (21 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายเกษม ดวงแพงมาต หรืออดีตพระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าสำนักที่พักสงฆ์ห้วยผึ้ง หรือวัดป่าสามแยก ต.วังกวาว อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เปล่งวาจาลาสิกขาเมื่อเช้ามืดของวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะเกิดกรณีอื้อฉาวมีความสัมพันธ์ทางเพศกับพระลูกวัด-ลูกศิษย์ใกล้ชิด ตั้งแต่ปลายปี 56 รวมเป็นสิบๆ ครั้ง

ล่าสุดจนถึงขณะนี้นายเกษมยังคงพักอาศัยอยู่ภายในสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก โดยมีลูกศิษย์ลูกหาทั้งชาย-หญิง คอยดูแลและสนทนา

ทั้งนี้ สมัยบวชเป็นพระ นายเกษม พร้อมพระสงฆ์ที่พำนักในสำนักที่พักสงฆ์ห้วยผึ้ง หรือวัดป่าสามแยก เคยถูกคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ (ธรรมยุต) สั่งให้พ้นจากเขตปกครองของจังหวัดเพชรบูรณ์ กับต้นสังกัดเดิมคือ จังหวัดอุดรธานี ตามคำสั่งที่ จจ.09/2551 มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อกรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา หลังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทั้งกรณีเหยียดหยามวัตถุทางศาสนา

โดยถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 เป็นผู้นำแผ่นป้ายข้อความว่า “ทองเหลืองหล่อนี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้าแน่ ไม่ต้องไปกราบมัน” ไปติดไว้ที่ฐานพระพุทธรูปในวัดป่าสามแยก และวันที่ 28 พฤษภาคม 2551 ใช้เท้าเหยียบฐานพระพุทธชินราชจำลอง และใช้มือตบบริเวณพระพักตร์ของพระพุทธรูป

รวมถึงปรากฏพฤติกรรมก้าวร้าวถีบโต๊ะเก้าอี้เผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม และถูกฟ้องร้องในเวลาต่อมา

โดยศาลชั้นต้นยกฟ้อง ขณะที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษากลับเป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 206 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป กระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท รวม 2 กระทงจำคุก 2 ปี และปรับ 20,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์แห่งคดีและสภาพความผิดแล้ว เห็นสมควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อำเภอเมืองอุดรธานีก็มีคำวินิจฉัย (ธ)ที่ 1/2554 เรื่องให้พระเกษม อาจิณณสีโล (ขณะนั้น) สละสมณเพศ เพราะเห็นว่ามีประพฤติละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ ถือเป็นการดื้อรั้น ไม่สามารถปกครอง อบรมสั่งสอนให้อยู่ในทางของสมณบรรพชิตได้ หากให้ครองเพศสมณะต่อไปมีแต่จะส่งผลกระทบต่อคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาอย่างไม่จบสิ้น

แต่สิงหาคม 2554 อดีตพระเกษม อาจิณณสีโล กลับแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมบริเวณศาลาสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยกต่อเนื่อง อีกทั้งแสดงอาการเตะถีบโต๊ะเก้าอี้ พร้อมพูดจาหยาบคาย พร้อมโพสต์ขึ้นเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์เองเพื่อตอบโต้พระผู้ใหญ่ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง

และนับจากนั้นอดีตพระเกษมก็ยังคงนุ่งห่มผ้าเหลืองอยู่ในสำนักที่พักสงฆ์ห้วยผึ้ง หรือวัดป่าสามแยก จนก่อเหตุอื้อฉาวล่วงละเมิดทางเพศพระลูกวัด-ศิษย์ดังกล่าว รวมทั้งแม้จะยอมลาสิกขาแล้วก็ยังคงอยู่ในสำนักที่พักสงฆ์ตามเดิม ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าอาจจะมีการตั้งลัทธิใหม่ขึ้นมาอีกด้วย