ศูนย์ข่าวภูมิภาค - ชาวบ้านรอบเหมืองทองคำอัคราลุยยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอใช้เงินกองทุนประกันความเสี่ยงที่มีอยู่ 100 ล้านบาทเจาะเลือดชาวบ้านตรวจอีก 6 พันคน พร้อมเรียกร้องทบทวนมาตรการยึดคืนที่ดิน ภบท.5 ชาวบ้านเนินมะปราง รอประเคนให้นายทุนเหมืองแร่
วันนี้ (19 ม.ค.) น.ส.สื่อกัญญา ธีระชาติดำรง พร้อมตัวแทนกลุ่มชาวบ้านรอบเหมืองทองคำอัครา ของบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เขต 3 จังหวัด พิจิตร, เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ประมาณ 20 คน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเทียบรัฐบาล เพื่อขอให้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทอง โดยได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องดังนี้
1. ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยรังสิต ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ เพื่อพิสูจน์หาสารพิษปนเปื้อนในเลือด ในร่างกายของประชาชน และพื้นที่เสี่ยงต่อผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งหมด
2. ขอให้มีคำสั่งในการจัดหาน้ำเพื่อใช้อุปโภคบริโภค ให้แก่ประชาชนโดยรอบเหมืองเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ เดือดร้อนอย่างหนัก ไม่สามารถใช้น้ำดื่มตามธรรมชาติได้เพราะผลตรวจเบื้องต้นพบสารโลหะหนัก
3. ขอให้ทบทวนและตรวจสอบการเอาคืนที่ดินของชาวบ้านที่เคยอยู่ทำกินมาหลายสิบปีกลับไปเป็นป่าไม้ เพราะพบว่ามีการใช้กฎหมายป่าไม้เอาคืนที่ดินของประชาชนเดิมเขต อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งมีเอกสาร ภบท.5 ซึ่งแม้จะอ้างเป็นหลักฐานทางที่ดินไม่ได้ แต่ก็ใช้เป็นหลักฐานว่าชาวบ้านเคยครอบครองทำประโยชน์จริงมาก่อน เพราะที่ดินดังกล่าวไม่ได้เอาไปเป็นของป่าไม้เพื่อการอนุรักษ์ผืนป่า แต่กลับไปส่งมอบให้บริษัทเข้าไปขุดเจาะสำรวจแร่ทองคำ และกลายเป็นสิทธิภายในเลขที่คำขอของบริษัทเพื่อเตรียมทำเหมืองแร่ทองคำ
ล่าสุดประชาชนเข้าแจ้งความเพื่อเป็นการยืนยันว่าป่าไม้ได้แอบอ้างเอาที่ดินของประชาชนกลับไป แต่ผิดวัตถุประสงค์ อันเป็นการหลอกลวงประชาชน เพราะมีการนำที่ดินไปเตรียมส่งมอบให้นายทุน ซึ่งปัจจุบันเป็นสิทธิของบริษัท ริชภูมิไมนิ่ง จำกัด บริษัทย่อยของบริษัทอัครา รีซอร์เซสฯ
นอกจากนี้ ในท้องที่ อ.เนินมะปรางพบว่ามีการประกาศออก ส.ป.ก.ครอบคลุมมาแล้วตั้งแต่ปี 53 แต่ชาวบ้านกลับไม่รู้ และเจ้าหน้าที่ไม่ออกมาดำเนินการ เท่ากับว่ากลายเป็นสิทธิของนายทุน จึงขอให้ตรวจสอบที่ดินมากกว่า 1 ล้านไร่เป็นการเร่งด่วน
ทั้งนี้ กลุ่มประชาชนที่เรียกร้องระบุอีกว่า ขณะนี้พบสารโลหะหนักในเลือดชาวบ้านแล้วกว่า 300 คน และพบปนเปื้อนในน้ำ ดิน พืชผัก จนไม่สามารถใช้อุปโภค บริโภคได้ มีชาวบ้านเจ็บป่วยไม่มีเงินรักษา อีกทั้งยังมีประชาชนรอการเจาะเลือดอีกกว่า 6,000 คน แต่ไม่มีเงินกองทุนในการดำเนินการเจาะเลือดและรักษาพยาบาล
ดังนั้น จึงขอให้มีคำสั่งนำเงินกองทุนประกันความเสี่ยงที่มีอยู่ในภาคอุตสาหกรรมราว 100 ล้านบาทมาดำเนินการช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด เพราะผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำยังไม่ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชน
น.ส.สื่อกัญญาระบุว่า หลังกรมอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐาน และการเหมืองแร่สั่งให้บริษัทหยุดประกอบการเป็นเวลา 30 วันแล้ว ล่าสุดเมื่อ 15 ม.ค.ทางผู้ใหญ่บ้านประกาศว่า ทางบริษัทอัคราฯ ได้หยุดแจกจ่ายน้ำ ทำให้ชาวบ้านได้ร้องเรียนต่ออธิบดีกรมอุตสาหกรรมฯ บริษัทฯ จึงได้ประกาศแจกจ่ายน้ำต่อ
แต่หลังจากนั้นทางบริษัทฯ ให้พนักงานออกล่าลายเซ็นชาวบ้านโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ ทำให้ชาวบ้านบางส่วนไม่กล้าเซ็น และเกรงว่าบริษัทฯ เกิดความไม่พอใจอาจสั่งงดน้ำภายหลังอีก จึงขอให้มีคำสั่งด่วนที่สุดให้ทหารเป็นผู้แจกจ่ายน้ำแก่ประชาชนทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดการต่อรองกับประชาชน เนื่องจากปัจจุบันปัญหาน้ำอุปโภคยังไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ช่วงที่ผ่านมามีการยิงปืนช่วงกลางคืนในหมู่บ้านหลายนัดตลอด 2 คืนติดต่อกัน เป็นเหตุให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว
จากนั้นกลุ่มชาวบ้านเดินทางต่อไปยื่นหนังสือถึงนายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการร่วมลงพื้นที่ตรวจหาสารพิษในร่างกายชาวบ้าน ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป