พิจิตร - อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานฯ ลงนามสั่ง “เหมืองทองอัคราฯ” หยุดเดินเครื่องชั่วคราว 30 วัน พร้อมให้ตรวจสอบผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้าน หลัง “หมอพรทิพย์” สุ่มเจาะเลือดชาวบ้านกว่า 700 คน พบสารหนู-แมงกานีสเกินมาตรฐานเพียบ ขู่ฝ่าฝืนเจอถอนใบอนุญาต
วันนี้ (13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ อก 0508/133 ลงนามโดยนายสุรพงษ์ เทียนทอง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ แจ้งให้บริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือเหมืองทองอัคราไมนิ่ง หยุดประกอบการโลหกรรม
โดยระบุว่า ตามที่กรมอุตสาหกรรมฯ ได้แจ้งให้บริษัทฯ ส่งตัวประชาชนที่มีสารหนูในปัสสาวะ และแมงกานีสในเลือดสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน เข้ารับการตรวจรักษาทันที และแจ้งผลการดำเนินการภายใน 15 วัน ตามหนังสือที่ อก 0508/5806 แต่บริษัทยังไม่ได้ดำเนินการ ขณะที่สื่อมวลชนหลายแขนงต่างนำเสนอข่าวผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชน
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าการประกอบโลหกรรมดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2530 ให้บริษัทฯ หยุดประกอบการเป็นเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือนี้ เพื่อตรวจสอบว่าผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนดังกล่าวเกิดจากการประกอบการของบริษัทหรือไม่อย่างไร แล้วให้รายงานต่อกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานฯ หากฝ่าฝืน อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานฯ สามารถสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการได้ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมีสิทธิอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน
ล่าสุดมีรายงานว่า เหมืองทองอัคราพิจิตรได้ประกาศให้คนงานที่มีมากกว่า 1 พันคนทราบ พร้อมทั้งสั่งหยุดการทำงานตามคำสั่งของอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่แล้ว
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมคณะนักวิชาการ และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ลงพื้นที่สุ่มเจาะเลือดเพื่อหาสารโลหะหนักในร่างกายชาวบ้าน 732 คนที่อาศัยอยู่โดยรอบเหมืองแร่ทองคำอัครา รีซอร์สเซส ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร กระทั่งพบชาวบ้านส่วนใหญ่มีสารโลหะหนักจำพวกสารหนู สารแมงกานีส ในร่างกายเกินค่ามาตรฐาน