อุบลราชธานี - ชาวบ้านอำเภอน้ำยืน อุบลราชธานี หลายร้อยคนร่วมตัวต้านโครงการปล่อยจระเข้น้ำจืดกลับคืนถิ่นของเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม สุดท้ายเจ้าของโครงการยอมถอยเลิกปล่อยหันมาร่วมกับชาวบ้านอนุรักษ์จระเข้ที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติแทน
สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา มีชาวบ้านเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี คัดค้านการปล่อยจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยกลับคืนถิ่นในป่าต้นน้ำลำโดมใหญ่บนเทือกเขาพนมดงรัก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพราะเกรงได้รับอันตรายจากจระเข้นั้น
ความคืบหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม บ้านแข้ด่อน ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นายปราโมทย์ ราตรี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม ชี้แจงเกี่ยวกับโครงการปล่อยจระเข้คืนถิ่นตามธรรมชาติ ซึ่งจะทำการปล่อยในวันที่ 16 ม.ค.นี้ และมีชาวบ้านจาก 10 หมู่บ้านใน ต.โดมประดิษฐ์ ที่อาศัยอยู่สองฝั่งลำน้ำโดมใหญ่ออกมาต่อต้าน เพราะเกรงจระเข้จะหลุดจากลำห้วยดินดำ ซึ่งเป็นต้นน้ำของลำน้ำโดมใหญ่ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก มาทำอันตรายชาวบ้านที่ประกอบอาชีพหาปลาในลำน้ำ
การพูดคุยทำความเข้าใจใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ชาวบ้านที่มาร่วมรับฟังจำนวนหลายร้อยคนยังคงยืนยันไม่เห็นด้วยที่จะมีการนำจระเข้เลี้ยงจากฟาร์มทั้ง 10 ตัวลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ เพราะจระเข้เลี้ยงแม้เป็นพันธุ์ไทยท้องถิ่น แต่มีพฤติกรรมแตกต่างจากจระเข้ตามธรรมชาติ
สุดท้ายนายปราโมทย์ได้สั่งยุติโครงการปล่อยจระเข้ลงสู่ลำน้ำ แต่จะร่วมกับชาวบ้านตั้งเป็นชมรมอนุรักษ์จระเข้ท้องถิ่นที่มีอยู่แล้วให้เกิดการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น ส่วนจระเข้ทั้ง 10 ตัวที่ได้รับมาจากฟาร์มเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม จะเลี้ยงไว้ในบ่อและส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และใช้ศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของจระเข้พันธุ์ไทย ตามที่ได้มีการตั้งโครงการไว้แล้ว
นายวีระวุฒิ กะชา ตัวแทนชาวบ้านที่มาร่วมในเวที กล่าวว่า สิ่งที่ชาวบ้านกังวลในการปล่อยจระเข้ลงสู่ลำน้ำ เพราะเกรงถึงฤดูน้ำหลากจระเข้จะหลุดจากลำน้ำลงมาทำร้ายชาวบ้านที่ทำอาชีพประมง เมื่อเขตอนุรักษ์ยินดียุติโครงการ ชาวบ้านจะให้ความร่วมมือด้วยการร่วมอนุรักษ์จระเข้ที่มีอยู่ตามธรรมชาติให้ขยายพันธุ์มากขึ้น เพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษาจระเข้ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
สำหรับโครงการปล่อยจระเข้กลับคืนสู่ธรรมชาติของเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม สืบเนื่องมาจากไทยเข้าร่วมในภาคีอนุสัญญาไซเตส ทำให้มีภาระต้องอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ และจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทย ปัจจุบันมีเลี้ยงอยู่ตามฟาร์ม แต่หาในธรรมชาติได้ยาก จึงได้จัดทำโครงการปล่อยจระเข้ในเขตอนุรักษ์ เพื่อให้จระเข้ได้ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว
ส่วนบ้านแข้ด่อนที่ถูกเลือกให้เป็นแหล่งปล่อยจระเข้ครั้งนี้เพราะเดิมเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของจระเข้พันธุ์นี้มาก่อน เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าพบทั้งรอยเท้าของจระเข้ตามแหล่งน้ำบนเทือกเขาและสามารถจับพรานที่ฆ่าจระเข้ถลกเอาหนังไว้ได้
จึงได้ทำโครงการส่งจระเข้น้ำจืดอายุ 15 ปีกลับสู่ถิ่น เพราะเป็นจระเข้ที่สมบูรณ์สามารถผสมพันธุ์และขยายพันธุ์ได้เลย แต่ถูกชาวบ้านต่อต้าน เพราะกลัวอันตรายจึงต้องยอมยกเลิกโครงการและหันมาร่วมกันอนุรักษ์จระเข้ที่มีอยู่ตามธรรมชาติต่อไปดังกล่าว