เพชรบุรี - ศาลจังหวัดเพชรบุรี นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา “หมอสุพัฒน์” ในข้อหาค้ามนุษย์ โดยศาลพิพากษาจำคุก 8 ปี 33 เดือน และชดใช้เงินให้แรงงานต่างด้าวที่เป็นจำเลยยื่นฟ้องอีก 3 คน รวมเป็นเงิน 1 ล้านบาท ขณะที่เจ้าตัวเตรียมให้ทนายยื่นอุทธรณ์ต่อ
วันนี้ (26 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ที่ 4 อ่านคำพิพากษา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ ในข้อหาค้ามนุษย์ โดยศาลพิพากษาจำคุก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เป็นเวลา 8 ปี 33 เดือน และชดใช้เงินให้แรงงานต่างด้าวที่เป็นจำเลยยื่นฟ้องอีก 3 คน รวมเป็นเงิน 1 ล้านบาท หลังเสร็จสิ้นการฟังคำพิพากษา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ พร้อมทนายความได้นำหลักทรัพย์เดิม และเพิ่มเติมบางส่วนรวม 750,000 บาท ยื่นขอประกันตัวออกมาสู้คดี และศาลได้พิจารณาอนุญาติในเวลาต่อมา
จากนั้นเวลา 11.50 น. พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ พร้อมภรรยา และทนายความได้เดินทางออกมาจากศาลจังหวัดเพชรบุรี โดย พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้นัดฟังคำพิพากษาคดี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เกี่ยวกับคนงานพม่า ซึ่งหลังจากที่คำพิพากษาออกมา ตนกับทนายความได้เตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2555 นายสว่าง หรือค่อม นุ่มจุ้ย เจ้าของไร่สับปะรดใน จ.เพชรบุรี และ น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย บุตรสาว เจ้าหน้าที่สถิติ ระดับ 3 โรงพยาบาลตำรวจ ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี ว่า พบรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ สีเทา ของนายสามารถ กับ น.ส.อรษา ซึ่งเป็นบุตรชาย และสะใภ้ที่หายตัวไปทั้งคนทั้งรถนานกว่า 3 ปี ที่บ้านร้างของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในพื้นที่ จ.นนทบุรี
ต่อมามีการสืบสวนขยายผลไปค้นบ้านพักในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และคลินิกของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในกรุงเทพฯ พบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก นอกจากนี้ ทางการสืบสวนยังพบว่า มีแรงงานชาวพม่าที่อยู่ในการดูแลของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่เข้าเมืองโดยมิได้รับอนุญาตจำนวนหลายคน และจากการขุดบริเวณไร่หลังบ้านที่ ต.กลัดหลวง พบโครงกระดูก จำนวน 2 โครงถูกฝังอยู่ มีร่องรอยถูกกระสุนปืนที่กะโหลกศีรษะ ซึ่งเมื่อตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอแล้วพบว่าเ ป็นโครงกระดูกของ นายอิต้า แรงงานชาวพม่าที่สูญหายไป ทั้งยังพบว่า มีการทารุณแรงงานชาวพม่า หลายคนทำงานโดยมิได้รับค่าตอบแทน
จากนั้น พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ถูกจับกุมตัวได้ที่ปึกเตียนวิลลา อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางเพชรบุรี และศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2556 อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยมีอาชีพ และที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เมื่อถูกกล่าวหาก็เข้ามอบตัวสู้คดีโดยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ทั้งไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แสดงถึงความพร้อมในอันที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนตามกระบวนการยุติธรรมโดยชอบ จึงสมควรให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีในชั้นพิจารณาได้อย่างเต็มที่ ตีราคาประกันคดีร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา 3 ล้านบาท คดีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ และ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวฯ คดีละ 5 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม จากการหายตัวไปของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย บุตรชายนายสว่าง นุ่มจุ้ย พร้อมภรรยานายสามารถ ที่ปัจจุบันก็ยังหาไม่พบ แม้จะพบรถยนต์กระบะของทั้ง 2 อยู่ที่บ้านร้างของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จนนำไปสู่การตรวจสอบบ้าน และไร่ของพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในพื้นที่ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นบ้าน และพื้นที่ทำการเกษตรของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ จนพบโครงกระดูกถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ ถูกฝังไว้ในไร่ และพบว่ามีแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จนนำไปสู่การจับกุม พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เพื่อดำเนินคดีร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา คดีคดีค้ามนุษย์ คือ มีแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร
สำหรับคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้ตัดสินไปแล้ว โดย พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี พร้อม นางวิลสา จันทรบัญชา ภรรยา ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 4 เดือน ซึ่งทาง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาสู่คดี จนกระทั่งมาถูกตัดสินจำคุกอีกครั้งในคดีค้ามนุษย์ และยังรอตัดสินอยู่อีกหลายคดี โดยเฉพาะคดีร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา