เพชรบุรี - ศาลจังหวัดเพชรบุรี นั่งบัลลังก์พิพากษาสั่งจำคุก 5 ปี “หมอสุพัฒน์” ในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมภรรยาคนที่ 3 คุก 3 ปี 4 เดือน แต่เจ้าตัวได้ขอยื่นประกันตัวออกไป
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (15 ต.ค) ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี นายอติรุจ ตันบุญเจริญ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ที่ 12 อ่านคำพิพากษา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ จำเลยที่ 1 และ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยาคนที่ 3 จำเลยคนที่ 2 ในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจรเป็นรถยนต์กระบะโตโยต้า ไทเกอร์ ของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และนางอรสา เกิดทรัพย์ สองสามีภรรยาชาว ต.ท่าไม้รวก อ.ท่าสองยาง จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ โดยใช้เวลาประมาณ 60 นาที
โดยสรุปศาลได้มีคำพิพากษาจำคุก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ จำนวน 5 ปี ส่วน น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพนักงานสอบสวน จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 3 ปี 4 เดือน ทั้งนี้ ศาลให้ประกันตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไปเมื่อเวลา 17.15 น. ของวันเดียวกัน
ขณะที่นายสว่าง นุ่มจุ้ย ผู้เป็นพ่อนายสามารถ นุ่มจุ้ย ที่ได้มาร่วมสอบคำพิพากษา และยื่นหนังสือขอคัดค้านประกันตัวกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลให้ความยุติธรรมแก่ตน และครอบครัว แม้ว่าทุกวันนี้จะยังหาร่างของลูกชาย และลูกสะใภ้ไม่เจอก็ตาม ส่วนการยื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ นั้น เพราะ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ยังมีอีกหลายคดี และเป็นคนมีอิทธิพล จึงกังวลว่าอาจจะไปทำลายหลักฐาน หรือหลบหนีไป แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล
อนึ่ง เมื่อวันที่ 10 ก.ค.56 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยมีอาชีพ และที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เมื่อถูกกล่าวหาก็เข้ามอบตัวสู้คดี โดยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ทั้งไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แสดงถึงความพร้อมในอันที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนตามกระบวนการยุติธรรมโดยชอบ กรณีนี้จึงสมควรให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีในชั้นพิจารณาได้อย่างเต็มที่ ตีราคาประกันคดีร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา 3 ล้านบาท คดีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ และ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวฯ คดีละ 5 แสนบาท โดย พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้ให้ญาตินำโฉนดที่ดินมาวางเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว ซึ่ง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำกลางเพชรบุรี ในตอนเย็นวันเดียวกันกระทั่งมาฟังคำพิพากษาคดีลักทรัพย์หรือรับของโจรในวันนี้
ทั้งนี้ สืบเนื่องเมื่อปลายปี 2555 นายสว่าง หรือค่อม นุ่มจุ้ย เจ้าของกิจการไร่สับปะรดใน จ.เพชรบุรี และ น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย บุตรสาวเจ้าหน้าที่สถิติระดับ 3 โรงพยาบาลตำรวจ ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี ว่า พบรถกระบะโตโยต้า ไทเกอร์ สีเทา ของนายสามารถ นุ่มจุ้ย อายุ 30 ปี กับ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย และบุตรสะใภ้ของนายสว่าง ที่หายไปทั้งคนทั้งรถนานกว่า 3 ปี ที่บ้านร้างของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่ จ.นนทบุรี ผู้ให้เบาะแสการพบรถคือนายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชาย พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เชื่อว่าทั้งสองถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว
ต่อมา มีการสืบสวนขยายผลไปค้นบ้านพักในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และคลินิกของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในกรุงเทพฯ พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก นอกจากนี้ ทางสืบสวนยังพบว่า มีแรงงานชาวพม่าที่อยู่ในการดูแลของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ที่เข้าเมืองโดยมิได้รับอนุญาตจำนวนหลายคน และจากการขุดบริเวณไร่หลังบ้านที่ ต.กลัดหลวง ตามคำบอกเล่าของนายสุเทพ พบโครงกระดูก จำนวน 4 โครงถูกฝังอยู่ บางโครงมีร่องรอยถูกกระสุนปืนที่กะโหลกศีรษะ ซึ่งเมื่อตรวจพิสูจน์ทาง DNA แล้วพบว่า เป็นโครงกระดูกของนายอิต้า แรงงานชาวพม่าที่สูญหายไป ทั้งยังพบว่ามีการทารุณแรงงานชาวพม่า หลายคนทำงานโดยมิได้รับค่าตอบแทน
พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ถูกจับกุมตัวได้ที่ปึกเตียนวิลล่า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางเพชรบุรีตลอดมา