รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลจังหวัดเพชรบุรีสั่งยึดหลักทรัพย์ประกันตัว พร้อมออกหมายจับ พ.ต.อ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ โดยเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 10 ก.พ.ศาลได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรีเป็นโจทก์ กับพ.ต.อ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ จำเลยที่ 1 นางวิลสา จันทรบัญชร จำเลยที่ 2 ในข้อหาลักทรัพย์ หรือ รับของโจร โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ สองสามีภรรยาชาว ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน บฉ 5960 เพชรบุรี เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2552 และต่อมาปลายปี 2555 พี่ชายพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้ชี้เบาะแสจนตำรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวได้ โดยพบจอดอยู่ที่บ้านพักของพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่จ.นนทบุรี
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานลักทรัพย์ ให้จำคุกพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ 5 ปี นางวิลสา 3 ปี 4 เดือน ส่วนข้อหารับของโจรพิพากษายกฟ้อง โดยจำเลยทั้ง 2 ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลอนุญาต
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดเพชรบุรีได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้ขอเลื่อนนัดศาล โดยอ้างว่า ประสบอุบัติเหตุตกบันไดและศาลได้เลื่อนฟังคำพิพากษาในวันที่ 10 ก.พ.ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่ศาลจังหวัดเพชรบุรีได้นัดพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาฟังคำพิพากษาคดีที่พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เป็นจำเลยที่ 1 นายอัคร เลาหะวัฒนะ จำเลยที่ 2 และนายเอก เลาหะวัฒนะ จำเลยที่ 3 (ทั้งสองเป็นบุตรชาย) ฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันฝังปิดบังซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตาย หรือ เหตุแห่งการตายและกระทำการใด ๆ แก่ศพ ก่อนมีการชันสูตรพลิกศพเพื่อการอำพรางคดีในวันนี้ด้วย
ปรากฏว่าพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ทั้งยังมิได้ให้ตัวแทนมาแสดงเหตุผลต่อศาลว่าผิดนัดด้วยเหตุใดมีเพียงนางวิลสา จันทรบัญชร ภรรยา จำเลยร่วมคดีรับของโจรกับนายอัคร และนายเอก บุตรชาย จำเลยร่วมในคดีฆ่าผู้อื่นฯ และทนายความมาฟังคำพิพากษาเท่านั้น ศาลได้สอบถามภรรยาและบุตรจำเลยที่มาศาลแล้ว ได้รับคำตอบว่าไม่ทราบว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มีพฤติการณ์หลบหนีคดี จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับ และให้ยึดหลักทรัพย์ประกันขอปล่อยตัวชั่วคราวในคดีลักทรัพย์ จำนวน 300,000 บาท พร้อมมออกหมายจับและให้ยึดหลักทรัพย์ประกันขอปล่อยตัวคดีฆ่าผู้อื่นฯ ที่ขอยื่นประกันตัวไว้มูลค่า 300,000 บาท และให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาทั้ง 2 คดี ไปในวันที่ 25 มี.ค.2558 หากพ้นกำหนด 30 วันแล้ว จะอ่านคำพิพากษาลับหลัง.
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานลักทรัพย์ ให้จำคุกพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ 5 ปี นางวิลสา 3 ปี 4 เดือน ส่วนข้อหารับของโจรพิพากษายกฟ้อง โดยจำเลยทั้ง 2 ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลอนุญาต
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดเพชรบุรีได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้ขอเลื่อนนัดศาล โดยอ้างว่า ประสบอุบัติเหตุตกบันไดและศาลได้เลื่อนฟังคำพิพากษาในวันที่ 10 ก.พ.ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่ศาลจังหวัดเพชรบุรีได้นัดพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาฟังคำพิพากษาคดีที่พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เป็นจำเลยที่ 1 นายอัคร เลาหะวัฒนะ จำเลยที่ 2 และนายเอก เลาหะวัฒนะ จำเลยที่ 3 (ทั้งสองเป็นบุตรชาย) ฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันฝังปิดบังซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตาย หรือ เหตุแห่งการตายและกระทำการใด ๆ แก่ศพ ก่อนมีการชันสูตรพลิกศพเพื่อการอำพรางคดีในวันนี้ด้วย
ปรากฏว่าพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ทั้งยังมิได้ให้ตัวแทนมาแสดงเหตุผลต่อศาลว่าผิดนัดด้วยเหตุใดมีเพียงนางวิลสา จันทรบัญชร ภรรยา จำเลยร่วมคดีรับของโจรกับนายอัคร และนายเอก บุตรชาย จำเลยร่วมในคดีฆ่าผู้อื่นฯ และทนายความมาฟังคำพิพากษาเท่านั้น ศาลได้สอบถามภรรยาและบุตรจำเลยที่มาศาลแล้ว ได้รับคำตอบว่าไม่ทราบว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มีพฤติการณ์หลบหนีคดี จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับ และให้ยึดหลักทรัพย์ประกันขอปล่อยตัวชั่วคราวในคดีลักทรัพย์ จำนวน 300,000 บาท พร้อมมออกหมายจับและให้ยึดหลักทรัพย์ประกันขอปล่อยตัวคดีฆ่าผู้อื่นฯ ที่ขอยื่นประกันตัวไว้มูลค่า 300,000 บาท และให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาทั้ง 2 คดี ไปในวันที่ 25 มี.ค.2558 หากพ้นกำหนด 30 วันแล้ว จะอ่านคำพิพากษาลับหลัง.