ศาลฎีกายืนจำคุกเสื้อแดงเผาเอ็นบีทีขอนแก่น เจ้าตัวยันไม่ได้เผาเล็งขอพระราชทานอภัยโทษ (ชมคลิป)

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาคดีคนเสื้อแดงเผาสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ขอนแก่น เมื่อปี 2553 ชี้ให้ยึดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก 10 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา ด้านเสื้อแดงยังปากแข็งยันไม่ได้เผาแค่ร่วมชุมนุม รอรัฐบาลนิรโทษกรรม ทั้งหวังขอพระราชทานอภัยโทษ



วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้อ่านคำสั่งศาลฎีกาในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอุดม คำมูล เป็นจำเลยฐานก่อการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ บุกรุก ความผิดต่อพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีร่วมกับพวกที่หลบหนีเกินกว่า 10 คนขึ้นไป บุกเข้าไปเผาสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ว่า พยานโจทก์รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิด จำเลยเพียงเข้าร่วมชุมนุมโดยสุจริต หากเป็นความผิด ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษให้แก่จำเลยนั้น เห็นว่าเป็นฎีกาที่พิจารณาฎีกาทั้งฉบับ ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงผลตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ศาลฎีกาไม่รับคดีไว้พิจารณาพิพากษา ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 23 วรรคหนึ่ง จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความศาลฎีกา

สำหรับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 มีใจความว่า พยานโจทก์รับฟังได้มั่นคงโดยปราศจากข้อสงสัยว่า หลังจากจำเลยกับพวกได้ร่วมชุมนุมประท้วงที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยก่อเหตุทำลายทรัพย์สินและเผาศาลากลางดังกล่าวแล้ว จำเลยกับผู้ชุมนุมจำนวนมากร่วมกันเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และร่วมกันฝ่าแนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ แล้วเข้าไปเผาทำลายทรัพย์สินของผู้เสียหาย โดยจำเลยถือขวดน้ำดื่มภายในบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงและยืนถือยางรถยนต์เก่าอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

จึงมีเหตุทำให้เชื่อได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยกับผู้ชุมนุมประท้วงได้ร่วมวางแผนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะวางเพลิงเผาทรัพย์สินของผู้เสียหาย โดยแบ่งหน้าที่กันทำการตระเตรียมวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้เสียหาย หาอยู่นอกเหนือเจตนาในการร่วมชุมนุมประท้วงของจำเลยไม่ จึงให้จำคุก 16 ปี คำให้การจำเลยในชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 10 ปี 8 เดือน

หลังฟังคำสั่งศาลฎีกา จำเลยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวบริเวณใต้ถุนศาลจังหวัดขอนแก่นด้วยใบหน้าเคร่งเครียดว่า เคารพคำตัดสินของศาล และทำใจไว้ล่วงหน้าแล้ว จนถึงขณะนี้ยังคงยืนยันว่าไม่ได้วางเพลิง เพียงแต่ไปร่วมชุมนุมเท่านั้น ความหวังที่เหลือคงหวังพึ่งการขอพระราชทานอภัยโทษ และลุ้นให้รัฐบาลนิรโทษกรรมให้แก่ผู้กระทำผิดอันเนื่องมาจากการชุมนุมทางการเมือง