xs
xsm
sm
md
lg

คุก1ปี “อริสมันต์” หมิ่นฯ"อภิสิทธิ์" ไม่รอลงอาญา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 1 ปี ไม่รอการลงโทษ “กี้ร์-อริสมันต์” 1 ปี ปราศรัยหมิ่นประมาท“อภิสิทธิ์” กล่าวหาทุจริต หน่วงเหนี่ยวคำร้องฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ “ทักษิณ” และสั่งทหารฆ่าประชาชน

วานนี้ (9 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 604 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช. เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2552 และ วันที่ 17 ต.ค. 2552 จำเลยปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และหน้าทำเนียบรัฐบาล ถ่ายทอดสดผ่านช่องพีเพิล แชนแนล

โดยกล่าวหาโจทก์ทำนองว่า การบริหารงานรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ กู้ยืมเงินมาเพื่อทุจริตคดโกง โดยการหยิบยกเรื่องสถาบันมากล่าวอ้าง และกล่าวหาว่าโจทก์เป็นผู้หน่วงเหนี่ยวคำร้องฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ล่าช้า รวมถึงสั่งทหารฆ่าประชาชน ปล้นอำนาจจากประชาชน และไม่ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตในโครงการต่างๆ การปราศรัยของจำเลยล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จำเลยให้การปฏิเสธ

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกล่าวข้อความเท็จ ยุยง ปลุกปั่นประชาชนที่รับฟังการปราศรัย ทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง กระทั่งเหตุการณ์บานปลายทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง เป็นการมุ่งหวังทางการเมืองที่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายพรรคการเมืองที่จำเลยสังกัด ไม่ใช่เป็นการแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต ให้จำคุกจำเลยฐานหมิ่นประมาทผู้อื่น ตามมาตรา 326 และ 328 รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 6 เดือน รวมจำคุก 12 เดือน แต่ด้วยเหตุมีการกล่าวพาดพิงสถาบัน จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์มติชน และหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน

ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า โจทก์และจำเลยเป็นนักการเมืองมีอุดมการณ์แตกต่างกันและอยู่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม สาระสำคัญที่จำเลยพูดปราศรัยมิใช่เป็นการแสดงอุดมการณ์ทางการเมือง แต่จำเลยกล่าวปราศรัยสรุปว่าโจทก์และรัฐบาลของโจทก์มีเรื่องทุจริต ซึ่งเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต และการเมืองเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประชาชน ประเทศชาติและบ้านเมือง จึงมิใช่แต่เพียงการนำเอาถ้อยคำที่ดุเด็ดเผ็ดมันมาพูดปราศรัยโจมตีฝ่ายตรงข้ามตามที่จำเลยกล่าวอ้าง ข้ออ้างของจำเลยฟังไม่ขึ้น

ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์เรื่องที่กล่าวปราศรัยกรณีรัฐบาลโจทก์ทุจริตคอร์รัปชันโครงการรถเมล์ NGV 4,000 คัน และคลิปเสียงที่จำเลยอ้างว่า โจทก์สั่งฆ่าประชาชนนั้นเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต นั้นเห็นว่าแม้จำเลยจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลและมีสิทธิจะวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบโจทก์ในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่คำปราศรัยของจำเลยได้กล่าวยืนยันข้อเท็จจริง โดยจำเลยไมได้ตรวจสอบให้ได้ความจริงก่อน และส่อแสดงให้เห็นเจตนาไม่สุจริตของจำเลย จึงเป็นการกระทำที่มีเจตนาใส่ความให้โจทก์เกิดความเสียหาย ส่วนที่จำเลยปราศรัยว่าโจทก์เป็นผู้หน่วงเหนี่ยวคำร้องฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้นเห็นว่าเป็นเรื่องที่จำเลยเข้าใจไปเอง ข้อเท็จจริงนั้นโจทก์จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายบ้านเมือง ส่วนที่จำเลยปราศรัยว่าโจทก์ปล้นอำนาจไปจากประชาชนนั้นเห็นว่าวาทะทางการเมืองจะต้องมีสาระและมีประโยชน์ต่อประชาชน คำว่า “ปล้น” มิใช่วาทะที่ยอมรับกันได้ในสังคม นอกจากนี้ ที่จำเลยกล่าวถึงสถาบันนั้นเห็นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ย่อมเป็นที่เคารพของปวงชนชาวไทย จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะกล่าวปราศรัยพาดพิง อุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย

สำหรับประเด็นที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาและให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่าจำเลยเป็น ส.ส.จะต้องมีความสำนึกและทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง มิใช่ปราศรัยโจมตีฝ่ายตรงข้ามด้วยถ้อยคำที่ดุเด็ดเผ็ดร้อน เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ที่ศาลชั้นต้นไม่รอการลงโทษนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเหมาะสมแล้ว พิพากษายืน

ภายหลัง นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความนายอริสมันต์กล่าวว่า ศาลชั้นต้นได้วางหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวเป็นเงิน 2 แสนบาท ในวันนี้จึงได้เพิ่มเงินประกันอีก 3 แสนบาท รวมหลักทรัพย์ทั้งสิ้น 5 แสนบาท เพื่อจะยื่นประกอบคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างฎีกาสู้คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น.ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น