ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 5 ปี “จ่าประสิทธิ์” อดีต ส.ส.เพื่อไทย ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว แต่จำเลยรับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา เหตุเป็นส.ส.ถึง 2 สมัย ย่อมต้องรู้จักรับผิดชอบชั่วดี
วานนี้ (3 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.2360/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อายุ 49 ปี อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย จำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2557 จำเลยได้ปราศรัยบนเวทีในการจัดกิจกรรม “หยุดล้มล้างประชาธิปไตย” ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สาขาลาดพร้าว โดยพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมจำเลยได้เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จำเลยได้กลับคำให้การโดยให้การรับสารภาพในชั้นศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง มีความผิดตาม ป.อาญา มตรา 112 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่สืบเสาะพฤติการณ์แห่งคดีและสอบถามพนักงานคุมประพฤติแล้วเห็นว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวปราศรัยมีเนื้อหาถ้อยคำที่รุนแรง ทำให้สถาบัน ซึ่งเป็นที่สักการะของปวงชนชาวไทยเกิดความเสียหาย อีกทั้งจำเลยเคยเป็น ส.ส.ถึง 2 สมัย ย่อมต้องรู้จักรับผิดชอบชั่วดี การใช้คำพูดต้องใช้วิจารณญาณและความระมัดระวังมากกว่าบุคคลทั่วไป จำเลยย่อมต้องรับรู้ถึงผลที่กระทำลงไป ซึ่งการปราศรัยของจำเลยทำให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง อีกทั้งจำเลยมีประวัติถูกดำเนินคดีอาญาหลายคดี แต่ยังมากระทำผิดซ้ำอีกในเรื่องที่ร้ายแรงขึ้น จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ
ขณะที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์กล่าวสั้นๆ ว่า ตนถูกคุมขังในเรือนจำมากว่า 6 เดือนแล้ว แต่ไม่ต้องการที่จะนำความขัดแย้งให้กลับมาอีก จึงไม่คิดที่จะอุทธรณ์คดีอีก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น จ.ส.ต.ประสิทธิ์มีสีหน้าซึมเศร้า โดยภรรยาของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ได้เข้ามาโอบกอด ขณะที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ได้พูดปลอบใจภรรยาสั้นๆ ว่า “ไม่เป็นไรนะ”
วานนี้ (3 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.2360/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อายุ 49 ปี อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย จำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2557 จำเลยได้ปราศรัยบนเวทีในการจัดกิจกรรม “หยุดล้มล้างประชาธิปไตย” ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สาขาลาดพร้าว โดยพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมจำเลยได้เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จำเลยได้กลับคำให้การโดยให้การรับสารภาพในชั้นศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง มีความผิดตาม ป.อาญา มตรา 112 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่สืบเสาะพฤติการณ์แห่งคดีและสอบถามพนักงานคุมประพฤติแล้วเห็นว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวปราศรัยมีเนื้อหาถ้อยคำที่รุนแรง ทำให้สถาบัน ซึ่งเป็นที่สักการะของปวงชนชาวไทยเกิดความเสียหาย อีกทั้งจำเลยเคยเป็น ส.ส.ถึง 2 สมัย ย่อมต้องรู้จักรับผิดชอบชั่วดี การใช้คำพูดต้องใช้วิจารณญาณและความระมัดระวังมากกว่าบุคคลทั่วไป จำเลยย่อมต้องรับรู้ถึงผลที่กระทำลงไป ซึ่งการปราศรัยของจำเลยทำให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง อีกทั้งจำเลยมีประวัติถูกดำเนินคดีอาญาหลายคดี แต่ยังมากระทำผิดซ้ำอีกในเรื่องที่ร้ายแรงขึ้น จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ
ขณะที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์กล่าวสั้นๆ ว่า ตนถูกคุมขังในเรือนจำมากว่า 6 เดือนแล้ว แต่ไม่ต้องการที่จะนำความขัดแย้งให้กลับมาอีก จึงไม่คิดที่จะอุทธรณ์คดีอีก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น จ.ส.ต.ประสิทธิ์มีสีหน้าซึมเศร้า โดยภรรยาของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ได้เข้ามาโอบกอด ขณะที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ได้พูดปลอบใจภรรยาสั้นๆ ว่า “ไม่เป็นไรนะ”