พระนครศรีอยุธยา - เกิดเหตุบ้านทำพลุในพระนครศรีอยุธยาระเบิดบ้านพังยับ เสียหายอีกหลายหลัง รถยนต์เสียหายหลายคัน ส่วนเจ้าของถูกแรงระเบิดฉีกร่างเละ
เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (13 ธ.ค.) พ.ต.ท.จักรพันธ์ ธูปเตมีย์ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิดที่บ้านเลขที่ 75 ม.3 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.มงคล วรุณโณ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รถดับเพลิง จำนวน 5 คัน และหน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ
พบบ้านที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายทั้งหลัง ที่บริเวณหน้าบ้านห่างประมาณ 10 เมตร พบอาคารซึ่งปลูกขนาดกว้าง 5 คูณ 5 เมตรชั้นเดียว ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดมีเพลิงลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเกรงว่าจะเกิดการระเบิดซ้ำขึ้นมาอีก บริเวณโดยรอบยังพบหลุมกว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 1 เมตร อีกจำนวน 3 หลุม เและพบศษชิ้นส่วนมนุษย์กระจัดกระจายเกลื่อน ทั้งติดค้างอยู่ตามกิ่งไม้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องตามเก็บชิ้นส่วนนำไปรวมกัน และนำชันสูตร
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบ้านเรือนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายทั้งหมดอีก 3 หลังคาเรือน หลังคาเปิด กระจกแตก ฝ้าเพดานหล่นกระจัดกระจาย รถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้รับความเสียหาย 3 คัน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นผู้เสียชีวิตชื่อ นางสายพิณ เสมอภัค อายุ 49 ปี ขณะเกิดเหตุมีเพียงนางสายพิณ อยู่ภายในอาคารหลังดังกล่าว น่าจะกำลังประกอบทำกระจับ หรือประทัดอยู่แล้วอาจจะเกิดประกายไฟทำให้เชื้อดินปืนที่อยู่ในโรงทำพลุเกิดระเบิด ส่งผลทำให้นางสายพิณ เสียชีวิตทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุให้ละเอียดอีกครั้ง
ด้าน นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตลักลอบประกอบผลุ และขณะเกิดเหตุน่าจะกำลังผสมดินปืนทำให้เกิดการระเบิดรุนแรง ส่งผลให้เจ้าของเสียชีวิตทันทีและผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 คน
ทั้งนี้ จะต้องการเตรียมป้องกันอย่างเข้มงวด เนื่องจากพื้นที่ ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาแห่งนี้เคยเกิดระเบิดมาแล้วหลายครั้ง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพระนครศรีอยุธยา จะได้เตรียมประสานตำรวจ ทหาร ตรวจเข้มเอาจริงต่อผู้ลักลอบเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดซ้ำรอยขึ้นอีก
