ฉะเชิงเทรา - มรภ.เมืองแปดริ้ววุ่น หลังคณาจารย์ พร้อมบุคลากรทางการศึกษาประท้วงร้องขอค่าตอบแทนอันพึงได้ ตามกรอบอัตราเงินเดือนของกรมบัญชีกลางกำหนด เหตุถูกดองนานกว่า 15 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (12 ธ.ค.) กลุ่มคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา กว่า 130 คน นำโดย ดร.ณัฐปคัลภ์ ญาณมโนวิศิษฏ์ ประธานสภาคณาจารย์ และข้าราชการมหาวิทยาลัยฯ และประธานเครือข่ายสภาคณาจารย์ และข้าราชการมหาวิทยาลัยราชภัฏฯ ทั้ง 40 แห่งทั่วประเทศ
ได้ประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมโชคอนันต์ อาคารเรียนรวมและอำนวยการ ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อร่วมลงชื่อ และรวมตัวเตรียมการเคลื่อนไหวยื่นข้อเรียกร้องต่อคณะผู้บริหารฯ เกี่ยวกับอัตราค่าตอบแทนบุคลากรทางการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด หลังมหาวิทยาลัยฯ ยังคงจ่ายเงินค่าตอบแทนตามวุฒิการศึกษาเทียบเท่ากับอัตราเงินเดือนขั้นพื้นฐานของข้าราชการทั่วไป
โดย นางพรพรรณ ดอนมนัส อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนการศึกษา กล่าวว่า ปัจจุบันการจ้างงานบุคลากรข้าราชการสังกัดสถาบันการศึกษาของ มรภ.ราชนครินทร์ เป็นการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่บุคลากร และคณาจารย์ในอัตราเงินเดือนขั้นต่ำตามวุฒิการศึกษา หรือเท่ากับอัตราเงินเดือนของข้าราชการทั่วไป โดยไม่มีสวัสดิการใดๆ รองรับ หรือเท่าเทียมกับข้าราชการทั่วไป เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร ค่ารักษาพยาบาล บิดามารดา คู่สมรส และบุตร ค่าเช่าบ้านพัก ฯลฯ
“จะมีเพียงแค่สวัสดิการขั้นพื้นฐานในรูปแบบของบริษัทเอกชนทั่วไป คือ ประกันสังคมเท่านั้น ทั้งที่ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2542 ได้อนุมัติหลักการให้กรมบัญชีกลางจ่ายค่าตอบแทนแก่บุคลากรทางการศึกษาในอัตราที่สูงกว่าข้าราชการทั่วไป ด้วยอัตราเงินเดือนขั้นพื้นฐาน หรืออัตราเงินได้ของบุคคลนั้นคูณด้วย 1.7 สำหรับคณาจารย์ และคูณด้วย 1.5 สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนการศึกษา”
นางพรพรรณ ยังเผยอีกว่า และแม้ว่าทางมหาวิทยาลัยฯ จะได้รับกรอบหลักการงบประมาณ จากกรมบัญชีกลาง ปี 2552 ให้จ่ายเงินเดือนค่าตอบแทนตามอัตราที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ แต่ก็ยังไม่จ่ายค่าตอบแทนเต็มตรงตามอัตราที่กรมบัญชีกลางกำหนด โดยจ่ายเพียงแค่อัตราเงินเดือนพื้นฐานคูณด้วย 1.1 และ 1.2 สำหรับคณาจารย์ มาจนถึงเดือนตุลาคม 2556 และปรับอัตราการจ่ายเป็น 1.15 และ 1.25 จนถึงปัจจุบัน
หลังจากนั้น คณะผู้บริหารซึ่งนำโดย ผศ.ดร.อุทัย ศิริภักดิ์ อธิการบดี และ ผศ.สมศักดิ์ คำมา รองอธิการบดี ได้เข้ามาชี้แจงต่อกลุ่มบุคลากรว่า หลัง ครม.มีมติให้จ่ายอัตราค่าตอบแทนบุคลากรทางการศึกษาในอัตราใหม่ มหาวิทยาลัยฯ เพิ่งได้กรอบหลักการงบประมาณมาจากกรมบัญชีกลาง เมื่อปี 2552 และได้เริ่มจ่ายในอัตราคูณ 1.1 และ 1.2 มานับตั้งแต่นั้น
โดยเหตุที่ทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถจ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูงได้ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดไว้ตามมติ ครม.2542 เนื่องมาจากมหาวิทยาลัยนั้นมีบุคลากรมากถึง 533 อัตรา ซึ่งเกินไปจากกรอบอัตรากำลังที่ได้รับมาจากกรมบัญชีกลางถึง 111 อัตรา จึงจำเป็นต้องเกลี่ยเงินที่ได้รับเพิ่มให้แก่บุคลากรในส่วนที่เกินออกไปจากกรอบด้วย
ส่วนสาเหตุที่มหาวิทยาลัยฯ มีรายได้มากเพียงพอที่จะจ่ายเพิ่มค่าตอบแทนให้ตรงตามอัตราที่ถูกกำหนดได้ เพราะปัจจุบันปริมาณนักศึกษามีจำนวนลดลงโดยเฉพาะนักศึกษาภาคพิเศษ จึงทำให้รายได้ของมหาวิทยาลัยฯ ลดลงตามไปด้วย
“ในส่วนของเงินที่ได้รับการอนุมัติมาจากมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2557 จากรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งเป็นเงินจัดสรรเพิ่มในการปรับคุณวุฒิตามรอบปีงบประมาณ ในส่วนต่างที่ยังขาดอยู่กว่า 7 ล้านบาทนั้น เพิ่งได้รับเข้ามาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ซึ่งจะได้นำมาเกลี่ยจ่ายให้แก่บุคลากร และคณาจารย์ตามที่มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อไป” ผศ.ดร.อุทัย กล่าว
