พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา รวบได้แล้ว! มือปืนร่างยักษ์ยิงหนุ่มรับจ้างร้านมินิมาร์ท และร้านรับซื้อของเก่า ทิ้งศพภายในสถานีจ่ายน้ำบ้านคลองพุทรา ซึ่งเป็นสถานีน้ำร้างของสำนักงานประปาภูมิภาคพระนครศรีอยุธยา ตำรวจคุมตัวไปทำแผนรับสารภาพ
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพนายกอบ บุตรกลาง อายุ 23 ปี ลูกจ้างร้านมินิมาร์ทเปี่ยมสุข และร้านรับซื้อของเก่า ถูกยิงด้วยปืนขนาด .38 เข้าที่ท้ายทอย 1 นัด ภายในสถานีจ่ายน้ำบ้านคลองพุทรา สำนักงานประปาภูมิภาคพระนครศรีอยุธยา หมู่ 5 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะกิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานีน้ำร้าง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (8 ธ.ค.) พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย เกิดโภคทรัพย์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นาย ได้ควบคุมตัวนายประสิทธิ์ หรือยักษ์ มุกดาหาร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/6 ม.8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ๋กว่า 200 ซม. และมีอาชีพขายไก่ย่าง พร้อมของกลางอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ขนาด.38 รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณหน้าร้านมินิมาร์ทเปี่ยมสุข
โดยผู้ต้องให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย และผู้ต้องหาพร้อมเพื่อนได้นั่งดื่มสุราฉลองวันเกิดของเพื่อนอยู่ด้วยกัน ระหว่างนั้นผู้ตายได้นำอาวุธปืนขึ้นมาเล่นแล้วเล็งเข้าหาผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหากลัวปืนจะลั่นใส่จึงได้บอกให้ผู้ตายเก็บปืน แต่ผู้ตายไม่ยอมเก็บ ผู้ต้องหาจึงได้ชกไปที่ใบหน้าผู้ตายจนผู้ตายล้มลงกับโต๊ะ จากนั้นผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปยังที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้ติดตามไป และถืออาวุธปืนไปด้วยจนทัน และเกิดการต่อสู้กันจนล้มลงกับพื้น ผู้ต้องหาแย่งอาวุธปืนจากมือผู้ตายได้จึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตายไป 1 นัด ก่อนที่จะหลบหนีไป จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการทำแผนในจุดเกิดเหตุมีเพื่อนคนงานของร้านรับซื้อของเก่าจำนวนมากมามุงดูที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันให้ออกห่างจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา ส่วนในจุดเกิดเหตุที่มีการใช้อาวุธปืนยิงกันจนเสียชีวิตพบว่า ได้มีการนำอาหาร น้ำดื่ม บุหรี่ มาทำพิธีให้แก่ผู้ตาย พร้อมกับมีการจุดไฟสาปแช่งผู้ต้องหาเอาไว้ด้วย
พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุและได้เรียกคนงาน รวมทั้งผู้ที่มานั่งดื่มสุราร่วมกันในคืนวันเกิดเหตุมาสอบสวนจนพบว่า ผู้ต้องหามีท่าทีพิรุธ จึงได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดจนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และนำไปค้นหาของกลางทั้งอาวุธปืน สร้อยคอทองคำ และเสื้อผ้าของผู้ต้องหาที่เปื้อนเลือดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในบ้าน
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาสารภาพด้วยว่า ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้ตายมาก่อน แต่ด้วยความเมาและแค้นที่ผู้ตายไม่ยอมเก็บอาวุธปืน และยังเล็งมาที่ผู้ต้องหาจึงได้ชกไปที่ใบหน้า 1 ครั้ง และยังถูกผู้ตายตามมาจะใช้อาวุธปืนยิงอีก จึงได้แย่งปืน และยิงผู้ตายจนเสียชีวิต จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ และควบคุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร