นครศรีธรรมราช - ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เร่งเข้าเก็บหลักฐานเหตุนั่งร้านโครงการประปานครศรีฯ ถล่มทับชาวบ้านเจ็บเพียง ซึ่งล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ยังอาการสาหัสอีก 1 ราย พบข้อมูลมีการรื้อถอนตัวรับน้ำหนักบนจุดสูงสุดอาจเป็นส่วนหนึ่งของการถล่ม ขณะนี้พนักงานสอบสวนขอนำตัวผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมตรวจสอบแบบก่อสร้างทั้งหมดแล้ว
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังจากเกิดเหตุนั่งร้านโครงการก่อสร้างของการประปาภูมิภาคนครศรีธรรมราช ถล่มลงมา ซึ่งเหตุเกิดในท้องที่หมู่ที่ 1 ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพบว่า มีผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่ง รพ.ท่าศาลา ถึง 12 ราย และล่าสุดนั้น เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตลง 1 ราย คือ นายดุลเล๊าะ ถนอมธรรม อายุ 50 ปี ชาวตำบลนาเคียน อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช โดยมีสภาพบอบช้ำอย่างรุนแรง แขนขาหัก และเลือดคั่งในสมอง ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นยังรักษาตัวที่ รพ.ท่าศาลาอีก 8 ราย ยังอยู่ในอาการสาหัสอีก 1 ราย ที่เหลือนั้นสามารถกลับที่พักได้แล้ว
และเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นครศรีธรรมราช เข้าเก็บหลักฐาน และบันทึกภาพในที่เกิดเหตุนั่งร้านโครงการก่อสร้างหอส่งน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคนครศรีธรรมราช หลังพบว่า ชาวบ้านได้เข้ามาขนย้ายกองไม้สนเศษซากจากการพังถล่มออกไปแล้วเป็นจำนวนมาก โดยพบหลักฐานสำคัญหลายส่วนที่อาจเป็นข้อบ่งชี้ถึงการพังถล่ม รวมทั้งมีการให้ถ้อยคำของคนงานก่อสร้างว่า ขณะเกิดเหตุนั้นมีทีมคนงานที่รับเหมาช่วงงานฉาบพื้นผิวกำลังทำงาน ในขณะที่อีกทีมกำลังรื้อถอนนั่งร้านบางส่วนออกเพื่อเปิดทางให้มีการฉาบพื้นผิว ซึ่งอาจไปรื้อตัวค้ำยันที่ติดกับอาคารหอส่งน้ำออก จึงเกิดการพังถล่มขึ้น
พ.ต.อ.สำเริง ชูกะนันท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าศาลา ระบุว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกเอกสารแบบแปลน และเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากผู้รับเหมาแล้ว พร้อมกันนี้ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานโยธาธิการจังหวัดเข้าร่วมสอบสวน เพื่อตรวจสอบว่ามีการก่อสร้างดำเนินการถูกขั้นตอนหรือไม่อย่างไร และจะนำไปสู่การสรุปว่า เหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความประมาทเลินเล่อ หรือเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งต้องใช้เวลาในการสอบสวน และขณะนี้ได้ประสานเรียกตัวผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในชั้นแรกคือ ผู้แทนการประปาภูมิภาค ที่มีหน้าที่คุมงานก่อสร้าง และวิศวกร ผู้รับเหมา โดยนัดหมายมาพบในสัปดาห์หน้า ส่วนผู้ที่บาดเจ็บ และเสียชีวิตนั้นทางผู้รับเหมาแจ้งว่าพร้อมรับผิดชอบ