ศรีสะเกษ - ตูมสนั่น! บนท้องฟ้าใกล้เขาพระวิหาร ชาวภูมิซรอลผวาเกรงเกิดสงครามชายแดนไทย-เขมรขึ้นอีก ขณะเศษชิ้นส่วนวัตถุหล่นลงมาจากท้องฟ้าหลายจุด เผยตกทะลุหลังคาบ้านของชาวบ้านหวิดดับสยอง
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (7 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ใกล้เขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างพากันแตกตื่นแหงนหน้ามองดูบนท้องฟ้า เนื่องจากมีเสียงดังตูมคล้ายเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวเหนือท้องฟ้าใกล้กับเขาพระวิหาร ติดต่อกัน 5-6 ครั้ง และบนท้องฟ้ามีรอยควันขาวเป็นทางยาวคดเคี้ยวไปมา ลักษณะเป็นกลุ่มควันที่เกิดจากการระเบิด สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน
นายประสิทธิ์ เห็นอ้ม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 12 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย กล่าวว่า เสียงระเบิดบนท้องฟ้าใกล้เขาพระวิหารดังมาก โดยดังต่อเนื่องกัน 5-6 ครั้ง ซึ่งคาดว่าเกิดจากยานอวกาศระเบิดเหมือนเช่น 2-3 ครั้งที่ผ่านมา โดยจะมาระเบิดที่บริเวณเขาพระวิหารเป็นประจำ คาดว่าบริเวณนี้เป็นช่วงครบวงรอบการโคจรของยานอวกาศที่จะต้องทำลายตัวเองก็เป็นได้
ต่อมา ประมาณ 30 นาที หลังสิ้นเสียงระเบิด ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเศษชิ้นส่วนของยานอวกาศที่ระเบิดหล่นลงมาจากท้องฟ้าประมาณ 4 จุด โดยจุดแรกที่บริเวณกลางถนนใกล้สามแยกบ้านภูมิซรอล โดยนางน้อย ทองปัญญา อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขายส้มตำไก่ย่างอยู่ห่างจากถนนที่เศษวัตถุตกประมาณ 4เมตร ได้ชี้ให้ดูจุดที่เศษวัตถุตกลงมา เป็นวัตถุ ความยาวขนาดไม้บรรทัด 1 ฟุต ตกลงมากลางถนน หวิดถูกรถยนต์ที่สัญจรไปมาจึงได้ไปเก็บมาไว้ แต่ปรากฏว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ใกล้บ้านภูมิซรอลได้เข้ามานำเศษวัตถุดังกล่าวไป
จุดที่ 2 อยู่ที่กลางสวนยาง บ้านเสาธงชัย ต.เสาธงชัย ของนางที นรดี อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 1 บ้านเสาธงชัย ต.เสาธงชัย โดยนางที กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวันอยู่ในสวนยาง ปรากฏว่ามีเศษวัตถุตกลงมาโดนต้นยางทำให้กิ่งต้นยางหัก และเศษโลหะตกลงมากองอยู่กับพื้น ห่างจากจุดที่ตนกับสามีนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ประมาณ 10 เมตร จึงได้เรียกลูกหลานมาดู พบว่า เป็นเศษวัตถุความกว้างประมาณ 1 ฟุต ยาว 2 ฟุตเศษ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้มาตามเก็บเอาชิ้นส่วนไปแล้ว
ทั้งนี้ ทุกครั้งที่เกิดการระเบิดบนท้องฟ้าใกล้เขาพระวิหารมักจะมีการสู้รบระหว่างไทยกับทหารกัมพูชา และการที่มีระเบิดขึ้นเช่นนี้ทำให้ตน และครอบครัว รวมทั้งชาวบ้านจำนวนมากที่อาศัยอยู่ใกล้เขาพระวิหารพากันหวาดกลัวว่าอาจเกิดการสู้รบกันระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่ายขึ้นมาอีกก็ได้ ตนภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลอย่าให้เกิดสงครามขึ้นมาอีกเลย เพราะพวกเรากลัวภัยสงครามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนของชาวบ้าน รวมทั้งชาวบ้าน และทหารต้องมาเสียชีวิต
จุดที่ 3 อยู่ที่บ้านนางรัชนีพร พานพบ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 บ้านโนนสว่างพัฒนา ต.เสาธงชัย โดยเป็นเศษวัตถุคล้ายชิ้นส่วนยานอวกาศที่ระเบิดในปี 2554 เป็นท่อนโลหะยาวประมาณ 1.50 เมตร ได้หล่นใส่หลังคาบ้านของนางรัชนีพร ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะเกิดเหตุ นางรัชนีพร นั่งอยู่ในบ้านห่างจากจุดที่เศษวัตถุหล่นลงมาประมาณ 2 เมตร หวิดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
จุดที่ 4 อยู่ที่บริเวณห้วยตาเงิด ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ เศษวัตถุได้ตกลงกลางป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้ตามเก็บมาไว้เพื่อทำการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป
นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย กล่าวว่า เศษวัตถุที่ตนเก็บมาจากจุดที่เกิดเหตุบางส่วนพบว่า เป็นชิ้นส่วนที่คล้ายกับการระเบิดของยานอวกาศเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2554 และประมาณเดือน ธ.ค.2554 ซึ่งหลังการระเบิดของยาวอวกาศได้มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินของทหารและชาวบ้าน
“การเกิดเหตุระเบิดในครั้งนี้ไม่อยากให้มีการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาขึ้นมาอีก เพราะจะทำให้ประชาชนชาวไทยในเขต ต.เสาธงชัย และตำบลอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เขาพระวิหารได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก” นายวีระยุทธ กล่าว