ศรีสะเกษ - ทหารไทยเก็บชิ้นส่วนวัตถุระเบิดตกจากท้องฟ้าใกล้เขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา 9 ชิ้น ไว้รอตรวจสอบที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กกล.สุรนารี เบื้องต้นยันเป็นชิ้นส่วนดาวเทียมหมดอายุใช้งานเข้าสู่ชั้นระเบิดทำลายตัวเอง เผยระเบิดมาแล้ว 3 ครั้งในช่วงเดือนเดียวกันและเวลาใกล้เคียงทั้ง 3 ครั้ง ระบุไม่เกี่ยวเหตุการณ์สู้รบชายแดนเขาพระวิหาร
วันนี้ (9 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดระเบิดบนท้องฟ้าใกล้เขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น. วันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา และมีเศษชิ้นส่วนวัตถุจากการระเบิดตกลงมาในเขตบ้านภูมิซรอล และหมู่บ้านต่างๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กระจายเป็นบริเวณกว้าง และเศษชิ้นส่วนบางชิ้นหล่นลงใส่หลังคาบ้านของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้ตามเก็บชิ้นส่วนวัตถุทั้งหมดไปไว้เพื่อรอการตรวจสอบ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ตั้งอยู่ในบริเวณหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 ได้นำชิ้นส่วนวัตถุที่เก็บมาจากสถานที่ต่างๆ จำนวน 9 ชิ้น มาทำการตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งชิ้นส่วนวัตถุแต่ละชิ้นมีขนาดไม่เท่ากัน บางชิ้นมีรอยไหม้เป็นสีดำ บางชิ้นมีลักษณะเป็นสีเทา โดยชิ้นส่วนทั้งหมดมีลักษณะแตกออกจากกันคล้ายเกิดจากการระเบิด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทหารยังคงตระเวนออกไปตามเก็บชิ้นส่วนตามสถานที่ต่างๆ ในเขต อ.กันทรลักษ์ และ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
แหล่งข่าวทหารระดับสูงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเปิดเผยว่า จากการสันนิษฐานเบื้องต้นยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนดาวเทียมที่มาระเบิดบริเวณเหนือเขาพระวิหาร โดยเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วรวม 3 ครั้ง คือ เมื่อปี 2554, ปี 2556 และปี 2557 นี้ ซึ่งเวลาเกิดเหตุดาวเทียมระเบิดจะเป็นช่วงเดือนธันวาคม ห้วงเวลาประมาณใกล้เคียงกันประมาณ 10.00-12.00 น. ทั้ง 3 ครั้ง ไม่ทราบว่าเป็นการทำลายตนเองหรือไม่ แต่สันนิษฐานว่าเป็นดาวเทียมของประเทศใดประเทศหนึ่งที่หมดอายุการใช้งาน พอเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกก็จะระเบิดทำลายตัวเอง
การระเบิดแบบนี้เป็นอันตรายมาก หากตกใส่ผู้คนอาจทำให้เสียชีวิตได้ และหากตกใส่สิ่งของก็จะทำให้ทรัพย์สิน สิ่งของ ได้รับความเสียหาย ซึ่งได้แจ้งให้หน่วยเหนือทราบแล้วเพื่อให้ดำเนินการประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
อยากฝากถึงประชาชนไทยตามแนวชายแดนกัมพูชาว่าหากใครเก็บชิ้นส่วนดาวเทียมระเบิดได้ขอให้นำส่งที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ตั้งอยู่ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และขอยืนยันให้ประชาชนได้รับทราบว่าเหตุการณ์ดาวเทียมระเบิดครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์สู้รบใดๆ ที่บริเวณเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาด โดยขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ อยู่ในสภาวะปกติทุกอย่าง
พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย โรจนวัฒนางกูร ผกก.สภ.บึงมะลู กล่าวว่า การระเบิดของดาวเทียมครั้งนี้ได้มีชิ้นส่วนตกลงมาในป่าใกล้กับ สภ.บึงมะลู มีขนาดความกว้างประมาณ 45 ซม. ยาวประมาณ 75 ซม. ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเก็บมาไว้เพื่อนำส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป ซึ่งการระเบิดแบบนี้เคยเกิดมาแล้วถึง 3 ครั้ง คาดว่าบริเวณใกล้กับเขาพระวิหารเป็นจุดถูกกำหนดให้ดาวเทียมเก่าหมดอายุใช้งานครบวงโคจรมาระเบิดทำลายตัวเอง ซึ่งการระเบิดในครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด มีเพียงทรัพย์สินหลังคาบ้านของชาวบ้านที่ถูกชิ้นส่วนดาวเทียมตกใส่ได้รับความเสียหายเท่านั้น