ศรีสะเกษ - ชาวบ้านภูมิซรอล เผยทหารไทยตรึงกำลังเตรียมพร้อมเต็มที่ตลอดแนวชายแดนไทย-เขมร ด้านเขาพระวิหาร รับมือสถานการณ์ความไม่สงบศาลโลกตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร 11 พ.ย.นี้ พร้อมปรับผิวถนนลาดยางทางขึ้นผามออีแดง เพื่อความสะดวกการท่องเที่ยว และขนส่งกำลังบำรุง คุมเข้มห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ชายแดนเขาพระวิหารเด็ดขาด
วันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านต่างพากันจับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับกรณีศาลโลกมีกำหนดอ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ตามคำร้องของฝ่ายกัมพูชา ในวันที่ 11 พ.ย. นี้ โดยส่วนมากพากันวิตกกังวลว่าจะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ทั้งกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ จะพากันมาชุมนุม และอาจมีการสู้รบกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นเหมือนปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้ชาวบ้านภูมิซรอลได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
นายกันหา ศรบุญทอง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.2 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้ถึงวันที่ศาลโลกจะตัดสินคดีเขาพระวิหารแล้ว พวกเรามีความกังวลใจว่าอาจมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาขึ้นมาอีกที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร หากฝ่ายกัมพูชาไม่พอใจคำพิพากษาของศาลโลก เพราะเมื่อช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา ไม่มีแววว่าจะมีการสู้รบกันแต่ฝ่ายกัมพูชาก็ยิงจรวดบีเอ็ม 21 เข้ามาถล่มทหารไทย และประชาชนชาวไทยตามแนวชายแดนไทย
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ตนและชาวบ้านทุกคนมีความอุ่นใจว่าจะมีความปลอดภัย เนื่องจากขณะนี้ทหารไทยจำนวนมากได้เข้ามาตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ทั้งปืนใหญ่ และรถถัง เต็มพื้นที่ตลอดแนวชายแดน ซึ่งทหารไทยได้มีการเตรียมพร้อมตั้งแต่ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
“ชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่า และได้พบกับทหารไทยมีการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ก็ทำให้พวกเราอุ่นใจ และเกิดความรู้สึกปลอดภัย หากว่าฝ่ายกัมพูชาจะก่อสงครามขึ้นมาในครั้งนี้ เชื่อว่าทหารไทยจะสามารถปกป้องอธิปไตย รวมทั้งปกป้องพวกเราที่เป็นชาวบ้านภูมิซรอล และทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ได้อย่างเต็มที่” นายกันหา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ที่บริเวณผามออีแดง บนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการปรับปรุงผิวจราจรโดยลาดยางถนนที่ขึ้นไปสู่ผามออีแดง เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และการขนส่งกำลังบำรุงไปให้ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ปฏิบัติหน้าที่รอบเขาพระวิหาร โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งพากันขึ้นมาเที่ยวชมบริเวณผามออีแดง
ขณะเดียวกัน ทหารไทยไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยว และผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปใกล้บริเวณชายแดนเขาพระวิหารเด็ดขาด โดยได้มีการนำเอาลวดหนามหีบเพลงมากั้นบริเวณเอาไว้ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย และเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่นักท่องเที่ยว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณผามออีแดงอย่างเต็มที่