ชาวบ้านภูมิซรอลใกล้เขาพระวิหารผวาสงครามไทย-เขมร

ศรีสะเกษ - ชาวบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ หมู่บ้านชายแดนเขาพระวิหารผวาภัยสงครามไทย-เขมร เผยอยากให้ผลการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลกออกมาเป็นผลดีต่อทั้ง 2 ชาติ

วันนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ติดเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชามากที่สุด ปรากฏว่าบรรยากาศทั่วไปหลังจากมีข่าวว่าศาลโลกมีกำหนดอ่านคำพิพากษาคดีกรณีปราสาทพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย. 56 นี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 25 วันนั้น ชาวบ้านภูมิซรอลยังคงประกอบสัมมาชีพกันตามปกติ แต่ต่างพากันกังวลว่ากรณีศาลโลกมีคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารอาจส่งผลให้เกิดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชาขึ้นมาอีก เนื่องจากยังผวากับภัยสงครามที่เคยเกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งทหารไทยกับกัมพูชาปะทะกันอย่างรุนแรงทำให้เกิดความสูญเสียต่อบ้านเรือน ทรัพย์สิน ชีวิตทหารรวมทั้งชาวบ้านเป็นอย่างมาก

นางแอ้ด ตั้งมั่น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 298 ม.2 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ตนและชาวบ้านภูมิซรอลยังคงใช้ชีวิตกันอยู่ตามปกติ ส่วนจะมีการพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย. 56 นั้น ตนอยากให้ผลการตัดสินออกมาเป็นผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่ายทั้งไทยและกัมพูชา เนื่องจากไม่อยากให้มีการรบกันขึ้นมาอีกที่บริเวณเขาพระวิหาร เพราะจะทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

นางไล เขาวงศ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.2 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเคยเป็นแม่ค้าขายของอยู่ที่บริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหารตั้งแต่อายุ 14 ปี ค้าขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวที่บริเวณปราสาทพระวิหารมาโดยตลอด และปราสาทพระวิหารมีปัญหาต้องเปิด-ปิดบ่อยมาก แต่เมื่อมีการปิดปราสาทพระวิหารทำให้ชาวบ้านภูมิซรอลไม่สามารถที่จะค้าขายสินค้าได้

ส่วนในการพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารครั้งนี้นั้น อยากให้ผลการพิพากษาออกมาเป็นผลดีต่อทั้ง 2 ชาติ ไม่อยากให้ไทยกับกัมพูชาต้องทะเลาะกันอีก เพราะจะทำให้เกิดสงครามขึ้นและส่งผลให้ชาวบ้านอย่างพวกตนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจากการสู้รบกันระหว่างไทย-กัมพูชาเมื่อช่วงปี 2554 ที่ผ่านมาทำให้ชาวบ้านภูมิซรอลและทุกหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ชายแดนเขาพระวิหารได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก