ศรีสะเกษ - จังหวัดศรีสะเกษประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านปราสาทพระวิหาร กรณีศาลโลกนัดตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร 11 พ.ย.นี้ สั่งซ่อมแซมหลุมหลบภัยหมู่บ้านชายแดน อ.กันทรลักษ์ รับมือความไม่สงบ
วันนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานในการประชุมร่วมกับตัวแทนจากทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านประสาทพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ห้องประชุมสุริยะวรมัน ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) นัดฟังความตัดสิน คำพิพากษาตีความคดีปราสาทพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย. 2556 นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในเขตบริเวณหมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จึงได้ร่วมหารือกันเพื่อรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นได้
นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นได้สั่งการไปยังหน่วยงานทุกภาคส่วนเพื่อให้เตรียมการรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการซ่อมแเซมหลุมหลบภัยในหมู่บ้านตามอำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งบางส่วนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ที่ผ่านมานั้นให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการซ่อมแซม
นอกจากนี้ ทาง นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ยังได้กำชับในเรื่องของการสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกจนเป็นบ่อเกิดของเหตุความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นได้
“ในภาพรวมขณะนี้ ทางจังหวัดศรีสะเกษถือว่ามีความพร้อมรับกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะทางดี หรือทางร้าย แต่อย่างไรก็ตาม หวังว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะจบลงในแบบที่ดี และเป็นไปในทิศทางที่จะเกิดความปรองดองระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งประชาชนชาวศรีสะเกษ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา คิดว่าหากเรื่องราวทุกอย่างจบลงด้วยความสงบสุข เรื่องของธุรกิจ และการค้าขายระหว่างทั้ง 2 ประเทศก็จะเป็นไปด้วยความราบรื่น ส่งผลต่อการสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอีกทางหนึ่งด้วย” นายสุริยะกล่าว