ศรีสะเกษ - ชาวบ้านภูมิซรอลพาครอบครัว ลูกหลานขยันซ้อมวิ่งหนีตายเข้าหลุมหลบภัยรับมือสงครามไทย-เขมรจากกรณีคดีปราสาทพระวิหาร พร้อมเก็บเสื้อผ้า ทรัพย์สินมีค่าใส่กระเป๋าเตรียมพร้อมอพยพได้ตลอดเวลา
ช่วงบ่ายวันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางสำลี พิลา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 220 หมู่ 13 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำลูกหลานและญาติผู้ใหญ่พากันซ้อมวิ่งเข้าไปหลบอยู่ในหลุมหลบภัย ซึ่งขณะนี้ได้มีการทำความสะอาดหลุมหลบภัยทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้วเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์คำพิพากษาของศาลโลกกรณีคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดสงครามไทย-กัมพูชาขึ้นมาอีกเหมือนเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา โดยเมื่อชาวบ้านวิ่งเข้าหลุมหลบภัยแล้วต้องนั่งลงกับพื้นและก้มลงต่ำเพื่อให้ปลอดภัยจากสะเก็ดระเบิดกระสุนปืนใหญ่ และลูกจรวดของทหารฝ่ายกัมพูชา
นางสำลี พิลา กล่าวว่า ตนยังคงหวาดผวาสงครามไทย-กัมพูชาเมื่อช่วงปี 2554 เนื่องจากมีความรุนแรงมาก ชาวบ้านต้องพากันวิ่งหนีตายกันอย่างโกลาหล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมจึงได้นำบุตรหลานและญาติผู้ใหญ่มาซ้อมวิ่งเข้าหลุมหลบภัย โดยหากเกิดเหตุการณ์จริงขึ้นมาจะได้ไม่เกิดความโกลาหลวุ่นวาย
นอกจากนี้ตนและครอบครัวยังได้ช่วยกันเก็บทรัพย์สินของมีค่าบรรจุใส่กระเป๋าเตรียมพร้อมอพยพหนีภัยสงครามได้ตลอดเวลา แม้ว่าทางราชการจะประกาศแจ้งเตือนว่า ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ แต่พวกตนเห็นว่าการเตรียมพร้อมเอาไว้เพื่อความไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
นายชิน กุลศิริ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 504 หมู่ 13 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนอยู่บ้านเพียงคนเดียว ลูกหลานได้ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับครอบครัวของแต่ละคนหมดแล้ว ตนมีความหวาดกลัวภัยสงครามระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเป็นอย่างมาก ซึ่งตนได้เตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าบรรจุเสื้อผ้า ของจำเป็นและของมีค่าต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว หากกัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามาในเขตแดนไทยก็พร้อมอพยพหนีไปอยู่ยังที่ปลอดภัยได้ทันที