ชาวเขมรผวาคดีพระวิหารทำปิดชายแดน แห่ซื้อสินค้า “ช่องสะงำ” ไปกักตุน

ศรีสะเกษ- ชาวเขมรผวาพิษคดีปราสาทพระวิหารส่งผลกระทบปิดชายแดนไทย-กัมพูชา แห่เข้ามาหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตลาดนัดชายแดนไทย ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ ไปกักตุนกันจำนวนมาก

วันนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวันเปิดตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่บริเวณตลาดฝั่งไทย ปรากฏว่าได้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชาวกัมพูชาพากันแห่เข้ามาหาซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคและอาหารการกินต่างๆ เพื่อนำเอากลับเข้าไปในเขตกัมพูชากันอย่างคึกคักมากเป็นพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และแต่ละคนต่างซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก ก่อนนำขึ้นบรรทุกบนรถเข็นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยและตรวจตราการกระทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด

นางซอน เทีย อายุ 46 ปี แม่ค้าชาวกัมพูชาจาก อ.อันลองเวง จ.อุดรมีชัย กล่าวว่า จากกรณีที่ศาลโลกจะพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย.นี้ พวกเรามีความหวั่นเกรงว่าหากผลการพิพากษาออกมาไม่เป็นที่พอใจของทั้งฝ่ายกัมพูชาหรือฝ่ายไทยอาจส่งผลกระทบต่อจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ซึ่งอยู่ใกล้กับเขาพระวิหาร และฝ่ายกัมพูชาหรือฝ่ายไทยอาจมีการสั่งปิดชายแดนบริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องสะงำได้ ซึ่งจะทำให้ชาวกัมพูชาที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคและอาหารการกินต่างๆ ดังนั้นจึงพากันมาหาเลือกซื้อสินค้าไปกักตุนไว้ก่อน หากมีการสั่งปิดชายแดนเกิดขึ้นจะได้ไม่ขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคจนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้ามานำชาวบ้านภูมิซรอลทำความสะอาดหลุมหลบภัย พร้อมทั้งทำการสำรวจทรัพย์สินต่างๆ ของชาวบ้าน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงที่มีการอ่านคำพิพากษาของศาลโลกกรณีคดีปราสาทพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย.นี้

ขณะที่สถานการณ์บริเวณผามออีแดงบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) รักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่