กำแพงเพชร - รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นำเจ้าหน้าที่ร่วมงานศพ 2 สามี-ภรรยา ถูกต้นเลี่ยนอุทยานคลองวังเจ้าล้มทับเสียชีวิต พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวคนตาย-คนเจ็บจากเหตุสลด ยันตรวจต้นเลี่ยนที่ล้มแล้วเป็นไม้สด ไม่ใช่ไม้ยืนต้นตายซาก ด้านญาติจี้อุทยานฯ ดูแลทายาทผู้ตาย
เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ธ.ค.) นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, นายวิรัช จตุพนาพร ผู้อำนวยการอนุรักษ์บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) และนายอวยพร สุริวงศ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกำแพงเพชร ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีสวดพระอภิธรรมการบำเพ็ญกุศลสองสามี-ภรรยา คือ นายมังกร วุฒิปัญญาดี อายุ 43 ปี นายช่างระดับ 6 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกำแพงเพชร และนางณัฏฐธิดา วุฒิปัญญาดี อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกำแพงเพชร ที่ประสบอุบัติเหตุต้นเลี่ยนในอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้าโค่นทับเสียชีวิต
ก่อนพิธีสวดพระอภิธรรม นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากกรมอุทยานฯ แก่ ด.ญ.วิภาดา หรือน้องข้าวฟ่าง วุฒิปัญญาดี บุตรของผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าวด้วยจำนวน 50,000 บาท และเยียวยาเบื้องต้นให้แก่ น.ส.กัณธิมา ประสาร อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกำแพงเพชร ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกรายหนึ่งด้วย
นายธัญญาเปิดเผยถึงเหตุการณ์เศร้าสลดที่เกิดขึ้นว่า ก่อนจะมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ ตนได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุที่อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ซึ่งต้นเลี่ยน ต้นไม้ใหญ่ที่โค่นล้มลงมานั้น จากการตรวจสอบพบว่าไม้ต้นนี้ยังเป็นไม้สด ไม่ได้มีร่องรอยของการตายแห้ง มีปลวก หรือมดกัดแทะโคนต้นหรือรากแต่ประการใด ไม่ใช่ไม้ยืนต้นตายแห้งอย่างที่เป็นข่าว
โดยบริเวณที่เกิดเหตุมีต้นเลี่ยน 2 ต้นอยู่เคียงคู่กัน ต้นที่ล้มนั้นลำต้นตรงสวยงาม อีกต้นที่ยังอยู่ยังมีลักษณะเอียงบ้าง ช่วงเกิดเหตุก็ไม่มีลม หรือเหตุการณ์ส่งสัญญาณล่วงหน้ามาก่อนเลยว่าจะโค่นล้มลงมา นับเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตัดต้นเลี่ยนที่เหลืออีกต้นออก และทำการสำรวจต้นไม้ใหญ่ในบริเวณจุดให้บริการนักท่องเที่ยวทุกต้น หากพบว่าต้นไหนล่อแหลมให้ตัดกิ่งออก ตกแต่งให้ปลอดภัย เพราะจุดเกิดเหตุนับเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาชมกันมาก มีสะพานแขวนข้ามลำน้ำคลองวังเจ้า เขตติดต่อของ 2 จังหวัดกำแพงเพชร และตาก ซึ่งทางอุทยานฯ จะเพิ่มมาตรการในเรื่องเวรยาม แผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมทั้งจะมีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวต่อไปด้วย
ส่วนมาตรการช่วยเหลือ ด.ญ.วิภาดา หรือน้องข้าวฟ่าง วุฒิปัญญาดี ในระยะยาวต่อบุตรของผู้เสียชีวิตนั้น รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า คงต้องดูกันอีกที เพราะน้องข้าวฟ่างเพิ่งเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมปีที่ 6 ต้องปรึกษาหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป
นางแต๋ว จันทร์ฉาย มารดานางณัฏฐธิดา วุฒิปัญญาดี ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ด.ญ.วิภาดา หรือน้องข้าวฟ่าง ซึ่งเป็นหลานของตน ที่รอดชีวิตจากต้นไม้โค่นทับนักท่องเที่ยวเสียชีวิตครั้งนี้ ถ้าพ่อแม่ของน้องข้าวฟ่างมีชีวิตและรับราชการทำงานการไฟฟ้าฯ ก็จะสามารถส่งเสียให้บุตรจนจบปริญญาตรีและจนได้ประกอบอาชีพการงาน แต่นี่ขาดทั้งพ่อและแม่
“ต่อไปใครจะดูแลค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน จึงต้องฝากให้กรมอุทยานฯ หาแนวทางรับผิดชอบช่วยเหลือดูแลการศึกษาให้บุตรหลานเพื่ออนาคตของหลานสาวด้วย”