อุทยานล้อมคอก สั่งตัดไม้ใหญ่หมดอายุ ป้องกันเหตุสลดล้มทับนักท่องเที่ยวซ้ำ

กำแพงเพชร/ตาก - อุทยานเตรียมล้อมคอก สั่งตัดต้นเลี่ยน-ไม้ใหญ่ใกล้หมดอายุใกล้จุดพักนักท่องท่องเที่ยว ป้องกันเหตุสลดซ้ำไม้โค่นทับกลุ่มนักท่องเที่ยว ขณะที่ผู้รอดชีวิตเผยนาทีระทึก

วันนี้ (1 ธ.ค.) นายสมชาย วิเชียนกัญญารัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า อ.วังเจ้า จ.ตาก ติดต่อกับจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุสลด ต้นเลี่ยนขนาดใหญ่ภายในอุทยานฯ ล้มทับนักท่องเที่ยวเสียชีวิตคาที่ 1 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เมื่อสายวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้มอบเงินให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย รายละ 5,000 บาท ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบเงินจำนวน 10,000 บาท

และในคืนนี้ (1 ธ.ค.) รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะเดินทางมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม บำเพ็ญกุศล นายมังกร วุฒิปัญญาดี และนางณัฏฐธิดา วุฒิปัญญาดี ที่เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลืออีก 50,000 บาท

ส่วนมาตรการการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้านั้น นายสมชายกล่าวว่า เบื้องต้นจะเร่งสำรวจและตัดต้นเลี่ยน รวมทั้งต้นไม้อื่น ที่อยู่ในโซนบริการนักท่องเที่ยว ต้นที่มีลักษณะเอียง หรือดูแล้วไม่ปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว

นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ที่เดินทางเป็นประธานพิธีสวดพระอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต และให้อุทยานฯ ใน จ.กำแพงเพชร สำรวจต้นไม้ในลานพักผ่อน และจุดเดินเท้าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวทุกแห่ง ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำแล้ว

สำหรับเหตุสลดที่เกิดขึ้นในอุทยานคลองวังเจ้า เมื่อ 30 พ.ย.ดังกล่าว นางสาวนงนุช ศรีภุมมา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 หมู่ที่ 5 บ้านดงพระจันทร์ ต.คลองสมบูรณ์ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เจ้าหน้าที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกำแพงเพชร เกิดขึ้นขณะกลุ่มพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมครอบครัว รวมถึงครอบครัวผู้ตาย คือ นายมังกร วุฒิปัญญาดี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 13 ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง และนางณัฐธิดา วุฒิปัญญาดี อายุ 38 ปี ภรรยา และลูกสาวคือ ด.ญ.วิภาดา วุฒิปัญญาดี อายุ 12 ปี ได้พากันไปเที่ยวพักผ่อนต้อนรับลมหนาวที่อุทยานฯ ตั้งแต่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเข้าพักที่บ้านพักอุทยานฯ 2 หลัง กางเต็นท์ 4 หลัง

และนางสาวนงนุช ศรีภุมมา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 หมู่ที่ 5 บ้านดงพระจันทร์ ต.คลองสมบูรณ์ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ให้เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า วันหยุดเจ้าหน้าที่สำนักงาน 20 กว่าคนเดินทางกันมาท่องเที่ยว กางเต็นท์รับลมหนาวที่อุทยานคลองวังเจ้า โดยพักที่บ้านพัก 2 หลัง และกางเต็นท์นอน 4 หลัง

จากนั้นในช่วงรุ่งเช้าวันที่ 30 พ.ย. ได้ไปตั้งวงรับประทานอาหารเช้ากันที่บริเวณใกล้ต้นไม้ ซึ่งเป็นลานกว้าง โดยครอบครัวนายมังกรนั่งหันหน้าไปทางต้นไม้ ขณะที่ภรรยาคือนางณัฐธิดา นั่งหันหลังให้ต้นไม้ ส่วนคนอื่นๆ ต่างอิ่มแล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อนบริเวณใกล้เคียง กำลังจะเก็บจานชามไปล้าง ซึ่งตนก็นั่งอยู่ด้วย

และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนว่า ต้นไม้กำลังล้ม ทุกคนที่อยู่ในวงข้าวต่างลุกขึ้นวิ่งหนีตาย ตอนนั้นตนก็ล้มลง พร้อมกับมีเสียงต้นไม้ล้มฟาดกับพื้นอย่างแรง ผู้เสียชีวิตนั่งขัดสมาธิ ลุกหนีไม่ทันถูกต้นไม้ทับเสียชีวิตทันที ท่ามกลางเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว

ขณะที่ภรรยาของผู้เสียชีวิต คือ นางณัฐธิดา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวังเจ้า จังหวัดตาก อาการบาดเจ็บกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด และปอดดันหัวใจผิดตำแหน่งไปอยู่ทางด้านขวา จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร คือ ด.ญ.วิภาดา บุตรสาวของนายมังกร-นางณัฐธิกา ได้รับบาดเจ็บที่เท้า และนางสาวกัณธิมา ประสาร อายุ 31 ปี ชาว จ.ลำปาง ขาหัก ข้อเท้าแตก นอนโรงพยาบาล

ต่อมาที่พนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุ เพื่อพิสูจน์ว่าเกิดจากความประมาทของอุทยานฯ หรือไม่ ส่วนต้นไม้ที่ล้มนั้นเป็นต้นที่ยืนคู่กับเลี่ยมอีกต้น ซึ่งรากแทบไม่ได้ยึดติดกับพื้นดินแล้ว มีเพียงลำต้นที่ฉีกขาดออกจากกัน