ระยอง - นักธุรกิจรับซื้อเม็ดพลาสติก แจ้งความดำเนินคดี สาวใหญ่พร้อมพวกหลอกขายเม็ดพลาสติก อ้างสูญเงินไปนับ 10 ล้านบาท หวั่นเป็นแก๊งต้มตุ๋น
วันนี้( 28 พ.ย.) นายณัฏฐ์ โสภาสาย อายุ 40 ปี เจ้าของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อินเตอร์ รีไซเคิล ตั้งอยู่เลขที่ 649/1 หมู่ 7 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง พร้อมด้วยนายจำลอง ป้อมโพธิ์ นายชูชาติ ชูสุวรรณ นายชำนาญ พระคำจันทึก นายบุญมี สังวาลและนางรสสุคนธ์ ชูสุวรรณ รวม 6 คน เข้าพบ พ.ต.ท.มงคล บุญโชติ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองระยอง กรณีถูกนายจิรเดช กาลจักร อดีต จ.ส.ต.สภ.เมืองระยอง ซึ่ง ปัจจุบันถูกออกจากราชการแล้ว และนางสุคณธิกา บุญสู่ ภรรยา ร่วมกับพวกมีนายอาคม เงินมั่น และนายณัฐวุฒิ แก่นศิริ
ทั้งหมดได้มาชักชวนให้ซื้อเม็ดพลาสติก ซึ่งตนมีอาชีพนี้อยู่แล้วจึงตกลงซื้อ ในครั้งแรกการซื้อขายไม่มีปัญหาอะไร แต่ครั้งต่อมานางสุคณธิกา และพวก มาบอกว่ามีเม็ดพลาสติกกว่า 30,000 ตัน พวกตนจึงตกลงซื้อเม็ดพลาสติกจำนวน 50 ตัน ราคาตันละ 43,000 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 2,150,000 บาท โดยทำสัญญาจะซื้อจะขายวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา ที่ร้านอาหาร นรากรซีฟู๊ด 2 หมู่ 2 ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง โดยนายอาคม เงินมั่น อยู่บ้านเลขที่ 223 หมู่ 2 ต.เนินพระ ระบุในสัญญาเป็นผู้ขาย
โดยให้ตนคือผู้ซื้อ ได้วางเงินการประกันการซื้อขายเม็ดพลาสติกเป็นเงินสดจำนวน 645,000 บาท ผู้ขายจะต้องทำการส่งมอบสินค้าดังกล่าวภายในกำหนดวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2556 หากผู้ขายผิดสัญญาผู้ขายยินยอมให้ผู้ซื้อปรับ 1 เท่าของเงินวางมัดจำ พร้อมลงลายมือไว้เป็นหลักฐาน โดยมีนางสุคณธิกา เป็นผู้รับเงินสดไปทั้งหมด
นายณัฏฐ์ โสภาสาย กล่าวอีกว่า เมื่อครบกำหนดวันส่งมอบสินค้า นางสุคณธิกา อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าไปตรวจสอบเม็ดพลาสติก ต้องรอให้มีการตรวจสอบก่อน ไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ แต่หลังจากนั้นนางสุคณธิกา ก็จะอ้างว่าต้องเสียค่าใต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน จำนวนเงิน 1,000,000 บาท โดยให้ทางเราโอนเงินไปให้อีก พวกเราก็เชื่ออีก เพราะอยากได้สินค้าจึงต้องยอม
หลังจากนั้นนางสุคณธิกา ก็จะอ้างว่ายังไม่สามารถส่งสินค้าได้ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกหลายอย่าง พวกตนจึงก็ต้องนำโฉนดบ้านที่ดิน และรถ เอาไปจำนำ เพื่อนำเงินไปโอนเงินไปให้อีก เพราะ กลัวไม่ได้ของและเสียดาเงินที่จ่ายค่ามัดจำไปแล้ว ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี ต้องสูญเงินรวมทั้งไปกู้เงินนอกระบบต้องเสียดอกเบี้ยเพื่อหวังจะได้สินค้าคิดเป็นเงินรวมทั้งดอกเบี้ยคิดเป็นเงินเกือบ 30 ล้านบาท
ปัจจุบันนี้บ้านและที่ดินและ รถยนต์ถูกยึด พวกตนได้รับความเดือดร้อนมากสิ้นเนื้อประดาตัว จึงต้องมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี เพราะคิดว่า คงจะแก๊งต้มตุ๋น และได้ไปสืบหาข้อมูลทางสื่อออนไลน์ ทำให้ทราบ ว่านายจิรเดช กาลจักร อดีต จ่าตำรวจ สภ.เมืองระยอง และนางสุคณธิกา ภรรยา เคยก่อคดีชักชวนร่วมลงหุ้นซื้อรถยนต์ให้ฝรั่งเช่า เสร็จแล้วต้องสูญทั้งเงินทั้งรถ โดนหลอกกันหลายรายนอกจากนี้มีนางสุคณธิกา ยังโดนหมายจับ สน.ลุมพินี ข้อหาลักทรัพย์ เมื่อปี 2551
ด้าน พ.ต.ท.มงคล บุญโชติ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ ได้มอบให้ ร.ต.ท.พิเชษฐ์ อิงชัยภูมิ ร้อยเวรสภ.เมืองระยอง ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.กิติ ศิริคช พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองระยอง กล่าวว่าเบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนจากนั้นก็เรียกผู้เสียหายมาสอบสวนปากคำภายหลัง และจะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาพบเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง นอกจากนี้ผู้ถูกกล่าวหารายเดียวกัน ถูกแม่ค้าตลาดระยองจำนวนหลายรายเตรียมให้ทนายความรวบรวมเอกสารหลักฐาน กรณีถูกสองสามีภรรยาซึ่งตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงให้ร่วมลงหุ้นซื้อเครื่องจักรในโรงงาน ทำให้แม่ค้าหลงเชื่อต้องสูญเงินเป็นจำนวนหลาย 10 ล้านบาท แต่ข้อเท็จจริงทั้งหมดต้องรอสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน
