เลขาธิการ ป.ป.ส.แถลงรวบนักค้ายาบ้ารายใหญ่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยึดทรัพย์ค่ากว่า 25 ล้าน ตามมาตั้งแต่ปี 2553 หลังเครือข่าย 10 คนถูกจับที่ จ.สงขลา เผยหาเองจากภาคเหนือขนเองลงภาคใต้ สุดท้ายจนมุมที่ จ.ปทุมธานี เพราะซื้อสินค้าแล้วใช้บริการหลังการขาย สารภาพแค่ค้ายา แต่เรื่องฆ่าคนไม่จริง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (22 ต.ค.) นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายสุนทร วินัยบดี ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด และนายสิทธิศักดิ์ กัลยณประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักปราบยาเสพติด แถลงผลการจับกุมนายนิพนธ์ จำเริญ พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สินเป็นเงินสดในบัญชีธนาคาร 1,100,000 บาท รถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์เป็นบ้านและที่ดินหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท
นายเพิ่มพงษ์กล่าวว่า ป.ป.ส.ได้ติดตามพฤติการณ์ผู้ต้องหามาตั้งแต่ปี 2553 โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ต้องหามีประวัติปล้นทรัพย์ รับทวงหนี้ มือปืนรับจ้าง และเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญใน 5 จังหวัดภาคใต้ ก่อนหน้านี้ผู้ที่ร่วมเครือข่ายถูกจับกุมได้หมดแล้ว เหลือเพียงนายนิพนธ์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหลบหนี และระวังตัวอย่างมาก พกปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาทำการจับกุมเครือข่ายของนายนิพนธ์ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2553 ผู้ต้องหา คือ นายสมศักดิ์ ศรีปาน พร้อมพวกรวม 9 คน ของกลางยาบ้า 20,070 เม็ด ยาไอซ์ 538 กรัม อาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนพกหลายรายการ
สอบสวนผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า รับยาเสพติดมาจากนายนิพนธ์ จึงได้ออกหมายจับ และติดตามพฤติกรรมเพื่อจับกุมเรื่อยมา จากข้อมูลพบว่านายนิพนธ์จะจัดหายาเสพติดจากภาคเหนือด้วยตัวเอง โดยไม่ผ่านคนกลาง และลักลอบมากระจายขายในจ.สงขลา จ.สตูล และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จนเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ป.ป.ส.ได้รับเบาะแสจากสายข่าวว่านายนิพนธ์มาพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านภัทรีดาเพลส ต.บางเดื่อ อ.เมือง จ.ปทุมธานี และไปอยู่ใน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นครั้งคราว จึงวางแผนร่วมกับทหารและตำรวจสะกดรอยติดตามจับกุม
นายเพิ่มพงษ์กล่าวว่า กระทั่งวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา นายนิพนธ์พร้อมน้องชายและหญิงสาวทราบต่อมาว่าเป็นภรรยาคนที่ 3 ของนายนิพนธ์ขับรถยนต์ไปยังศูนย์อาหารแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพร้อมกับแสดงหมายจับ พบอาวุธปืนพกสั้นและกระสุน นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านภรรยาคนที่ 3 ที่หมู่บ้านภัทรีดาเพลส จ.ปทุมธนานี จากนั้นขยายผลตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 จุด ครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี กาญจนบุรี นครศรีธรรมราช และสงขลา สามารถตรวจยึดรถยนต์ รถบรรทุก และเครื่องกลทางการเกษตรจำนวนมาก บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ที่ดินอีก 3 แปลง รวม 54 ไร่ รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 25 ล้านบาท
“หลักฐานสำคัญที่ทำให้จับกุมนายนิพนธ์ได้ คือ การทำธุรกรรมทางการเงินของนายนิพนธ์โยงกับบุคคลแวดล้อม และพฤติกรรมการซื้อสินค้าแล้วใช้บริการหลังการขาย ทำให้เจ้าหน้าที่สืบจนพบแหล่งกบดาน อย่างไรก็ตาม ป.ป.ส.จะสืบสวนขยายผลต่อว่า ยังมีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ หากพบก็จะยึดอายัดให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป”
นายเพิ่มพงษ์กล่าวว่า จากการสอบสวนนายนิพนธ์ยังให้การภาคเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าคนตาย หรือเป็นมือปืนรับจ้างตามที่ถูกกล่าวหา เพียงแต่ถูกซัดทอดมาเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เคยฆ่าใคร อาวุธปืนก็พกไว้ป้องกันตัว แต่ยอมรับว่าค้ายาเสพติดจริง เงินที่ได้จากการค้าก็จะนำไปลงทุนทางการเกษตร ทำไร่ ทำสวนยาง
