อุบลราชธานี - สภาพอากาศที่แปรปรวนกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกดอกไม้ขาย เพราะออกดอกช้าและไม่โตเต็มที่ ทำให้ราคาตก ขณะนี้มีเกษตรกรได้รับผลกระทบแล้วกว่า 40 ราย
นางกนกพร นามอุทา เจ้าของสวนดอกไม้เบญจมาศในหมู่บ้านตาติด หมู่ 3 ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตในปีนี้ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีพื้นที่จะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-20 องศาเซลเซียส แต่ปีนี้อากาศไม่หนาวมาก และกลางวันกลับมีอากาศร้อน
ทำให้สวนดอกเบญจมาศที่เคยสร้างรายได้ให้เฉลี่ยปีละ 2-3 แสนบาท ออกดอกช้ากว่าปกติ และแสงแดดที่จ้าเกินไปทำให้ออกดอกไม่สมบูรณ์ กลีบหงิกงอ และมีรอยไหม้ที่กลางดอก ทำให้ราคาตกจากกิโลกรัมละ 80-100 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ 60-70 บาท
นางกนกพรเล่าต่อว่า ทำอาชีพปลูกดอกเบญจมาศขายมานาน 5 ปี โดยปลูกเบญจมาศดอกสีเหลือง และสีขาวญี่ปุ่น เมื่อถึงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคมของทุกปี ดอกเบญจมาศจะบานเต็มที่ สามารถเก็บผลผลิตขายเฉลี่ยวันละ 40-50 กิโลกรัม มีรายได้เดือนละ 5-6 หมื่นบาท
แต่จากสภาพอากาศปีนี้ทำให้เก็บดอกเบญจมาศออกขายได้เพียงวันละ 10-20 กิโลกรัม เพราะออกดอกช้าและดอกไม่โตเต็มที่
สำหรับบ้านตาติด ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี มีเกษตรกรประกอบอาชีพปลูกดอกไม้ขายกว่า 40 ราย ปรากฏทั้งหมดได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในปีนี้ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกดอกไม้มีรายได้ลดกันทุกราย