กาญจนบุรี - หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร ชวนนักท่องเที่ยวชมงานเบญจมาศบาน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้รวม 30 วัน ที่ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พร้อมหนุนเกษตรกรเรียนรู้เพื่อหารายได้เสริม
วันนี้ (31 ต.ค.) ดร.วาสนา ใจกล้า นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการฝึกอบรมศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) เปิดเผยว่า ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เตรียมเปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งเกษตรกรได้เดินทางมาเยี่ยมชมความสวยงามของดอกเบญจมาศสายพันธุ์แคระ และสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงไม้กระถางที่มีมากกว่า 7 สายพันธุ์ รวมกันกว่าหมื่นต้น ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้ รวม 30 วัน
ทั้งนี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเกษตรกรที่ต้องการเรียนรู้นำไปผลิตส่งขายเพื่อหารายได้เสริม หรือรายได้หลักเพราะตลาดยังคงมีความต้องการสูงขณะคนปลูกยังมีน้อย และไม่รู้วิธีการและเทคนิคต่างๆ ในการเพาะปลูก เราจึงเตรียมที่จะให้การสนับสนุนเกษตรกรที่สนใจจะเข้ามาศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม และแนะนำเทคนิควิธีการต่างๆ ให้
โดยเตรียมพื้นที่จัดงานเอาไว้ประมาณ 300 ตารางวา เพื่อปรับเป็นสวนเบญจมาศ และเบญจมาศสายพันธุ์แคระ และไม้กระถางที่มีอยู่ทั้งหมด ซึ่งเบญจมาศของเราจะมีการบังคับให้ออกดอกก่อนเบญจมาศทั่วไปในประเทศ โดยจะเริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึงวันที่ 30 พ.ย.รวม 30 วัน ซึ่งในงานยังมีไม้ดอกเมืองหนาวอีกหลายชนิด เช่น บิโกเนีย คอสมอส บานชื่น ผีเสื้อ
จุดประสงค์ที่จัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างอาชีพเสริมให้แก่เกษตรกรที่มีความสนใจที่จะเข้ามาเรียนรู้การปลูกเบญจมาศกระถางเพื่อการค้า ยังเป็นที่ต้องการของตลาดสูงมาก แต่ปัญหาที่พบคือ มีผู้ผลิตน้อยลงอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นเพราะการผลิตเบญจมาศ มีขั้นตอนความยุ่งยากมากกว่าการปลูกดอกไม้ชนิดอื่นๆ อีกทั้งต้องใช้เทคนิคในการดูแลที่ละเอียดกว่าต้นไม้ทั่วไป
“แต่อย่างไรก็ตาม การจัดงานนอกจากส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ทางศูนย์ฯ ยังมีจุดเชื่อมโยงอีกหลายจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความงามของไม้ดอกไม้ประดับได้ตลอดทั้งวัน และจะยังมีการจัดเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปีให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้เข้าชม และเลือกซื้อทั้งไม้ดอกและไม้ผลที่เกษตรกรนำมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาดอีกด้วย” ดร.วาสนา กล่าว