เล็งพัฒนาป่าต้นน้ำเลยเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของ อ.ภูหลวง

เลย - ผู้ว่าฯ เลย พร้อม กอ.รมน.จ.เลย นำกำลังทหาร ตำรวจกว่า 100 นายรุกทวงคืนผืนป่าต้นน้ำแม่น้ำเลย พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูหลวง หลังถูกนายทุนบุกรุกปลูกยางพารากว่า 1,000 ไร่ เล็งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ พร้อมจัดงบทำศาลาจุดชมวิว

วันนี้ (20 พ.ย.) นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย พล.ต.เทศศนฤทธิ์ กสิบุตร รอง ผอ.กอ.รมน.จ.เลย นายอดุลย์รัตน์ ตั้งทวี ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) ได้สนธิกำลังนำทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า อส. จำนวนกว่า 100 คน เข้าปฏิบัติงานทวงคืนพื้นที่ป่า ท้องที่อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย โดยแบ่งกำลังออกตรวจยึดพื้นที่จำนวน 3 จุด 4 แปลง

ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูหลวง และป่าภูหอ ท้องที่บ้านห้วยท่า หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 4 บ้านไร่สุขสันต์ และหมู่ที่ 5 บ้านวังมน ต.เลยวังไสย์ อ.ภูหลวง จ.เลย ทั้ง 3 แปลง ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาแล้วและคดีได้ถึงที่สิ้นสุดแล้ว แต่ยังคงมีกลุ่มบุคลเข้าไปทำผลประโยชน์จากที่ดินอยู่ รวมจำนวนพื้นที่เข้าตรวจยึด 1,237 ไร่ 2 งาน 56 ตารางวา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวยังถูกนายทุนเข้าบุกรุกตัดต้นไม้จนหมดภูเขาเพื่อปลูกยางพารา

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า พื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติภูหลวง ส่วนหนึ่งเป็นเขตของ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แต่ภูเขาเป็นต้นน้ำของแม่น้ำเลย หากทำลายป่าจะกระทบต่อจังหวัดเลย ต้องเร่งพัฒนาเรื่องการอนุรักษ์ที่ต้นน้ำ โดยจุดที่กองกำลังเข้าตรวจยึดวันนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำเลย จำเป็นต้องอนุรักษ์รักษาไว้ไม่ให้นายทุนมาบุกรุกอีก

จุดที่ตรวจยึดจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นจุดชมวิว โดยขอให้นายอำเภอภูหลวงตั้งงบประมาณปี 59 ออกแบบแปลนภูมิทัศน์เรื่องจุดชมวิว ในวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท และทำศาลาจุดชมวิวตรงจุดที่เจ้าหน้าที่ตัดต้นยางพารา พร้อมจะนำโครงการปลูกป่า พัฒนาให้เป็นป่าที่สมบูรณ์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเลยอีกแห่งในอนาคตต่อไป