เชียงราย - รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ฯ ลงตรวจสอบจุดควายติดโรคระบาดล้มตายเป็นเบือที่เชียงราย ยันคุมได้แล้ว แต่ยอมรับยังหาควายไม่เจออีก 21 ตัว ฟันธงไม่ได้ถูกลอบชำแหละ หรือนำออกนอกพื้นที่หรือไม่ พร้อมเร่ง จนท.ฉีดวัคซีนคุมโรคทุกตัว
วันนี้ (10 พ.ย.) นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้เดินทางลงตรวจพื้นที่เกิดโรคคอบวม หรือเรียกว่าโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมีย บริเวณเกาะมะเฟือง บ้านสมานมิตร ม.1 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย หลังมีกระบือ หรือควายล้มตายลงอย่างกะทันหันภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา กว่า 40 ตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ฯ และล่าสุดมีการประกาศให้พื้นที่ในรัศมี 5 กิโลเมตรเป็นเขตประสบภัยพิบัติจากโรคระบาดสัตว์เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่สูญเสียสัตว์เหลี้ยง
โดยนายสรวิศได้เรียกประชุมศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจควบคุมโรคระบาดสัตว์ (กระบือ) อ.เวียงชัย โดยมีปศุสัตว์ จ.เชียงราย ปศุสัตว์อำเภอทุกอำเภอ นายอำเภอเวียงชัย และเจ้าของกระบือที่ตายเข้าร่วมประชุมด้วย
ที่ประชุมได้สรุปข้อมูลการตายของกระบือตั้งแต่วันที่ 3-10 พ.ย.ว่า ได้พบซากกระบือ และนำไปฝังแล้วจำนวน 34 ตัว จากกระบือที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้ทั้งหมดจำนวน 55 ตัว ยังคงสูญหายไปอีกกว่า 21 ตัว แสดงว่าที่หายไปอาจถูกลักลอบนำออกพื้นที่ ชำแหละหรืออื่นๆ ทั้งๆ ที่ได้มีการประกาศให้ควบคุมตั้งแต่วันแรกที่พบกระบือตายแล้วก็ตาม
สำหรับการช่วยเหลือตามมาตรการจะมีการจ่ายเป็นเงินช่วยเหลือให้ชาวบ้านจำนวน 20,000 บาทต่อกระบือที่ตาย 1 ตัว แต่เนื่องจากมีกระบือที่หายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงจะมีการตรวจสอบกันก่อน เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้พยายามขนย้ายกระบือที่เพิ่งตายได้ 1 คืนอออกไป จนถูกตำรวจจับส่งฟ้องศาลแล้ว 1 ราย ศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท แต่โทษจำให้รอลงอาญา 1 ปี
จากนั้นรองอธิการกรมปศุสัตว์ได้ไปฉีดวัคซีนให้กระบือที่บ้านทุ่งป่ายาง ม.3 ต.ห้วยสัก ซึ่งอยู่รัศมี 5 กิโลเมตร จากจุดที่พบกระบือติดเชื้อโรคระบาดล้มตายต่อไป
นายสัตวแพทย์ สรวิศกล่าวว่า ตอนนี้สามารถควบคุมโรคได้แล้ว โดยไม่พบว่ามีกระบือตายเพิ่มอีก แต่ก็ขอความร่วมมือเจ้าของกระบือว่า หากพบการตายด้วยอาการเชื่องซึม และล้มลงกะทันหันให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่ควรปกปิดข้อมูล
ส่วนเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ก็ได้สั่งการให้ฉีดวัคซีนให้กับกระบือในเขตควบคุมครบทุกตัวแบบ 100% หลังตรวจพบมีกระบือมีรัศมี 5 กิโลเมตร จากจุดแรกที่พบการตาย โดยเป็นกระบือ จำนวน 347 ตัว และโคจำนวน 402 ตัว ส่วนนอกพื้นที่ก็ไม่ให้ประมาท ให้เจ้าหน้าที่ตระเวณให้ข้อมูลและฉีดวัคซีนตามขั้นตอนปกติอย่างต่อเนื่องต่อไป