อ่างทอง - ปทส.ร่วมตำรวจอ่างทอง และ จนท.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สระบุรี บุกจับขบวนการค้าสัตว์ป่าคุ้มครองในพื้นที่อำเภอวิเศษชัยชาญ ที่เป็นของชาวลาว เตรียมส่งขายใน สปป.ลาว และเวียดนาม ได้สัตว์ป่าจำนวนมาก พร้อมแรงงานชาวเวียดนาม 5 คน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ (30 ต.ค.) พ.ต.ท.อภิชาติ จินาเพ็ญ รอง ผกก.1 บก.ปทส. และนายเบ็งจะ ตรีสาร หัวหน้าชุดปฏิบัติการด้านสัตว์ป่า ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางจักร อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประมาณ 30 นาย ได้เข้าจับกุมแก๊งค้าสัตว์ป่าคุ้มครองในพื้นที่บริเวณหมู่ 6 ต.คลองขนาก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยได้สัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมาก
พ.ต.ท.อภิชาติ เปิดเผยว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายมาว่า ในพื้นที่นี้เป็นแหล่งพัก และชำแหละสัตว์ป่าคุ้มครองเพื่อเตรียมนำส่งออกนอกประเทศ โดยส่งไปที่ประเทศเวียดนาม ผ่านช่องทาง สปป.ลาว
จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบพบมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ภายในมีทั้งมีบ่อพัก พร้อมอุปกรณ์จำพวกตะกร้าพลาสติก และกระสอบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งบ้านพักคนงาน นอกจากนี้ ยังพบสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมากถูกบรรจุอยู่ในกระสอบเพื่อเตรียมนำส่ง เช่น เต่า งูสิงห์ งูหลาม งูเหลือม ตัวเงินตัวทอง ตัวนิ่ม และนกเป็ดน้ำ รวมแล้วกว่า 500 ตัว ส่วนที่ยังไม่ได้บรรจุไว้ในกระสอบ ซึ่งยังอยู่ในบ่อเลี้ยงอีกกว่า 300 ตัว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเวียดนามได้อีก 5 คน เบื้องต้นรับสารภาพว่า ได้มาทำงานอยู่ที่แห่งนี้ได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยได้ค่าจ้างเป็นรายวัน มีหน้าที่คอยดูแลของในบริเวณดังกล่าว ส่วนเจ้าของเป็นชาวลาว ไม่ใช่คนในพื้นที่จะมาเป็นครั้งคราว
ด้านนายเบ็งจะ ตรีสาร หัวหน้าชุดปฏิบัติการด้านสัตว์ป่า ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี กล่าวว่า ประเภทสัตว์ป่าคุ้มครองเหล่านี้นับว่าเป็นที่นิยม และชื่นชอบของเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เวียดนาม โดยนิยมนำมารับประทาน โดยเต่าดำ มีราคากิโลกรัมละ 60 บาท ตัวนิ่ม กิโลกรัมละประมาณ 4,000 บาท
ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดเจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะติดตามตัวนายจ้างมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีความผิดตามมาตรา 19 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษมาตรา 47 ปรับไม่เกิน 40,000 บาท จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือทั้งจำและปรับ ส่วนของกลางทางเจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน-ประทับช้าง จังหวัดราชบุรี จะมารับไปเลี้ยงดูแลต่อไป