กาญจนบุรี - จนท.ฝ่ายปราบปรามการทุจริต ป.ป.ช.ลงพื้นที่กาญจนบุรี สอบการทุจริตงบบริจาคซ่อมสะพานมอญ ยุค “ชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ” สปช.เป็นผู้ว่าฯ เรียกสอบปากคำ ส.อบจ.คนดังสังขละบุรี และพรรคพวก พร้อมเตรียมตามสอบพยานบางรายที่ย้ายไปรับราชการอยู่ที่ต่างจังหวัดให้ครบทั้งหมด เชื่อใช้เวลาไม่นานรู้ผล ลงพื้นที่สะพานพรุ่งนี้
หลังจาก นายธวัช ไตรรุ่งตระกูล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) กาญจนบุรี เขต อ.สังขละบุรี และพรรคพวกได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบการว่าจ้างซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ช่วงขณะที่ นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้ว่าจ้าง ด้วยวงเงิน จำนวน 16,347,000 บาท โดยเฉพาะการจ่ายเงินชดเชย 10 ล้านบาท ให้แก่ห้างหุ้นส่วน จำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ผู้รับเหมา ทั้งที่งานยังไม่แล้วเสร็จ และคืบหน้าไปไม่ถึง 20% แต่กลับมีการตรวจรับรองงานว่าคืบหน้าไปกว่า 60% ซึ่งขัดต่อสภาพข้อเท็จจริงหน้างาน โดยมี นายธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.เป็นตัวแทนออกมารับเรื่องนั้น
ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (30 ต.ค.) นายจักรกฤษ ตันเลิศ เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริตชำนาญการพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้เดินทางที่ห้องประชุม ป.ป.ช.สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี ภายในอาคารสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เลขที่ 555 ถนนบายพาส หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยได้เชิญ นายธวัช ไตรรุ่งตระกูล ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต อ.สังขละบุรี นายวรุตน์ ชาวกรุงเก่า และนายประพฤติ มลิผล หรือเล็ก บ้านใต้ ชาวจังหวัดกาญจนบุรีเข้าพบเพื่อสอบปากคำ และขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วน จำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ด้วยวิธีพิเศษ ในการดำเนินการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ด้วยวงเงิน จำนวน 16,347,000 บาท โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
นายจักรกฤษ ตันเลิศ เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการซ่อมแซมสะพานอุตมานุสรณ์ คณะกรรมการ ป.ป.ช.โดยท่านเลขาธิการ ป.ป.ช.ก็ได้มอบหมายให้ตน และคณะลงมาดำเนินการตามระเบียบแสวงหาข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช.คือ มาสอบปากคำของผู้ที่ร้องเรียนเข้าไป รวมทั้งพยานที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมเอกสารต่างๆ เพื่อจะได้นำไปเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต่อไป
ส่วนประเด็นที่ผู้กล่าวหาร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.ทางเราคงไม่สามารถให้ข้อมูลได้เพราะเกรงว่าจะส่งผลเสียหายต่อรูปคดี และยังมีพยานอีกประมาณ 2 ถึง 3 ปาก ที่จะต้องสวบสวนเพิ่มเติม แต่ขณะนี้พยานดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีพยานบางรายได้ย้ายไปรับราชการอยู่ที่ต่างจังหวัด ซึ่งตนก็จะตามไปสอบปากคำให้ครบทั้งหมด แต่เชื่อว่าคงจะใช้เวลาไม่นาน และถือว่า ป.ป.ช.ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพราะเพิ่งได้รับการร้องเรียนเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
“ส่วนพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) คงจะต้องเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบสะพานอุตตมานุสรณ์ ที่อำเภอสังขละบุรีต่อไป” นายจักรกฤษ กล่าว
ด้าน นายธวัช ไตรรุ่งตระกูล ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต อ.สังขละบุรี กล่าวว่า หลังจากที่ตนเดินทางไปยื่นเอกสาร้องเรียนเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้พนักงานฝ่ายปราบปรามการทุจริต ป.ป.ช.จากส่วนกลางได้ลงพื้นที่โดยขอให้ตนมาให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างที่จังหวัดกาญจนบุรี จ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ เนื้อหาส่วนใหญ่ได้ยื่นให้แก่ทาง ป.ป.ช.ไปทั้งหมดแล้ว และในวันนี้มีประเด็นอื่นๆ ขอให้ทาง ปปช.นำไปตรวจสอบเพิ่มเติม แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียดตรงนี้
สำหรับสัญญาการว่าจ้างเราขอให้ทาง ป.ป.ช.ตรวจสอบว่าเกินความเป็นจริงหรือไม่ โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวงเงินที่สูงถึงกว่า 16 ล้านบาท รวมทั้งขั้นตอนการตรวจการจ้าง และการประเมินงาน หรือสรุปผลงานที่ผ่านมา พบว่า ไม่มีคณะกรรมการกลางเข้ามากำกับดูแล ซึ่งตรงนี้เราก็ขอให้ ป.ป.ช.เข้ามากำกับดูแลด้วย
รวมทั้งขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบสัญญาประนีประนอมระหว่างจังหวัดกาญจนบุรี และบริษัทผู้รับเหมาที่ทำขึ้น โดยจังหวัดยอมนำเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชน และหน่ายงานต่างๆ จ่ายให้แก่บริษัทเป็นเงิน จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ก็ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบด้วยว่าสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไร และคาดว่า ป.ป.ช.จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบวัสดุไม้ที่บริษัทเอกชนนำไปใช้ซ่อมบูรณะสะพานในเร็ววันนี้
“ตรงนี้พวกเราทุกคนขอยืนยันว่า เราทำเพื่อส่วนรวมโดยแท้จริง อีกทั้งยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ที่บริจาคเงินสมทบทุนซ่อมสะพานอุตตมานุสรณ์จะได้รับประโยชน์สูงสุด” นายธวัช กล่าว