กาญจนบุรี - ทหาร และชาวบ้านสังขละบุรี ร่วมกันซ่อมสะพานมอญ คืบแล้ว 75% คาดกลางเดือนตุลาคมเสร็จสมบูรณ์ สามารถใช้สะพานได้ เผยค่าใช้จ่ายในการซ่อมที่ผ่านมาประมาณ 5 แสนบาท เตรียมหารือกำหนดวันทำบุญใหญ่ เชื่อจะมีประชาชน นักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมทำบุญจำนวนมาก ขณะที่เครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดกาญจนบุรี นัดประชาชนร่วมจุดประทัตไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากจังหวัด 29-30 ก.ย.นี้
วันนี้ (28 ก.ย.) ที่บริเวณเชิงสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ฝั่งบ้านวังกะ หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี พ.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ท.จิรายุ จิตรธรรม ผบ.ช.พัน 9 ร.ต.นพดล มิตรดำรงค์ ผบ.หมวด ช.พัน 9 นายวิโรจน์ โรจนจินดา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม น.ส.รัชนี จำปีขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ได้ร่วมประชุมความก้าวหน้าของการปฏิบัติงานการดำเนินการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่งโมงจึงแล้วเสร็จ
พ.ท.จิรายุ จิตรธรรม ผบ.ช.พัน 9 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การดำเนินการซ่อมแซมบูรณะสะพานมอญ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ 28 ก.ย.57 การซ่อมสะพานมีทั้งหมด 10 ช่วงสะพาน จนถึงวันนี้สามารถดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้ว 7 ช่วงสะพาน ยังคงเหลืออีก 3 ช่วงสะพาน แต่ทั้ง 3 ช่วงสะพานได้ดำเนินการวางคานกับตงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลือเพียงแค่ปูพื้นสะพานเท่านั้น คิดเป็นผลงานรวม 74.39%
สำหรับแผนงานในอนาคต 7 วันข้างหน้าคือ ดำเนินการตีไม้ปูพื้นให้เสร็จ ประกอบไม้คาดแกงแนง ที่เหลืออีก 5 ช่วงสะพาน เปลี่ยนไม้ปูพื้นที่ไม่สมบูรณ์ที่บริษัมรับเหมาเดิมทำทิ้งไว้อีก 4 ช่วงสะพาน และดำเนินการทาสีเหล็กเพื่อกันสนิม สำหรับไม้ปูพื้นสะพานที่เหลืออีก 3 ช่วงสะพานต้องใช้ไม้ขนาดหนา 2 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว ต้องใช้ทั้งหมด 175 ตัว ปัจจุบันมีแล้ว 75 ตัว ยังคงเหลืออีก 100 ตัว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการแปรรูป
สำหรับงานที่ต้องทำเพิ่มเติมจากการสำรวจโดยวิศวกรของกองพันทหารช่างที่ 9 พบว่า มีชิ้นส่วนของสะพานบางส่วนไม่เรียบร้อย และไม่ได้มาตรฐาน จึงได้ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม เพื่อทำการปรับปรุงซ่อมแซม เช่น ต้องเปลี่ยนไม้ปูพื้นจากเดิมที่ทางบริษัทรับเหมาทำไว้หนา 1.5 นิ้ว ต้องเปลี่ยนเป็นหนา 2 นิ้ว รวมทั้งหมด 7 ช่วงสะพาน จาก 9 ช่วงสะพาน
นอกจากนี้ ยังต้องเปลี่ยนเหล็กฉากที่บริษัทผู้รับเหมาทำทิ้งเอาไว้ที่ความยาว 1.5 นิ้วคูณ 1.5 นิ้ว เปลี่ยนเป็นขนาดความยาวเป็น 6 นิ้วคูณ 6 นิ้ว และต้องทาสีกันสนิมเหล็กทั้งหมด
ส่วนไม้ที่ต้องจัดหาเพิ่มเติมเพื่อทำคาด และแกงแนง 8 ช่วงสะพาน ขนาด 2 นิ้ว คูณ 6 นิ้ว ช่วงละ 20 ตัว ประมาณการใช้ไม้ช่วงละ 5 ท่อน ต้องใช้ไม้ 40 ท่อน และไม้สำหรับปูทางล้ออีก 10 ช่วงสะพาน ต้องใช้ไม้ขนาด 1.5 นิ้ว คูณ 6 นิ้ว ช่วงละ 8 ตัว รวม 80 ตัว ประมาณการใช้ไม้ช่วงละ 2 ท่อน ต้องใช้ไม้รวม 20 ท่อน เชื่อว่าชิ้นงานเชื่อมสะพานเข้าหากันจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ส่วนการดำเนินการซ่อมเสร็จบริบูรณ์ 100% คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินประมาณวันที่ 10 ถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ทหารเข้ามาดำเนินการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา มาถึงวันนี้รวม 18 วันเต็ม ค่าใช้จ่ายที่ทางวัดเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งส่วนใหญ่จะจ่ายเป็นค่านอต ตะปู เหล็กฉาก และอื่นๆ ค่าใช้จ่ายที่ทางวัดจ่ายไปแล้วคาดว่าไม่เกิน 500,000 บาท แต่สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ใกล้จะกลับมาใช้ได้ดังเดิมแล้ว
ขณะเดียวกัน มีศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่ออุตตมะ ได้ทยอยเดินทางมาบริจาคเงินให้แก่วัดโดยตรงเป็นจำนวนมาก สำหรับพิธีทำบุญครั้งใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรึกหารือกันเพื่อกำหนดวันทำบุญที่เหมาะสม และเชื่อว่าจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางวัดวังก์วิเวการาม จะได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบกำหนดการอีกครั้งหนึ่ง
กาญจน์นัดจุดประทัตไล่สิ่งชั่วร้าย 29-30 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 18.30 น. วันนี้ (28 ก.ย.) นายพิศิษฐ์ ยินดีวี เครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดกาญจนบุรี แจ้งว่า ในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ ประชาชนที่มีเลือดรักชาติจังหวัดกาญจนบุรี จะจัดกิจกรรมขอรับบริจาคประทัดไม่จำกัดชนิดและจำนวน และขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งในกรุงเทพมหานคร มาร่วมกันจุดประทัดขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปจากจังหวัดกาญจนบุรี โดยพร้อมเพียงกันที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถนนหลักเมือง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี
จุดประสงค์เพื่อรวมพลังกันให้เข้มแข็งให้โลกได้รับรู้ว่า "คนกาญจนบุรี ไม่ยอมให้ใครมาตักตวงผลประโยชน์ไปง่ายๆ ด้วยอำนาจหน้าที่ของผู้ที่มีอำนาจ ขอให้มารวมตัวพร้อมกันในตั้งแต่เวลา 16.00 น. จากนั้นจะเริ่มจุดประทัดขับไล่สิ่งชั่นร้ายออกไปจากจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมๆ กันในเวลา 18.00 น.และในวันที่ 30 ก.ย.57 เวลา 07.00 น. จะร่วมกันจุดประทัดอีกครั้งหนึ่งในเวลา 09.00 น.
ล่าสุดนายพิศิษฐ์ ยินดีวี เปิดเผยว่า ตนได้รับการประสานจากนายกาศพล แก้วประพาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ว่าอยากพบตนเพื่อขอร้องไม่ให้เครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมกาญจนบุรีออกมาเคลื่อนไหวจุดประทัด ขณะที่ตนได้รับประสานตนกำลังขับรถอยู่ ซึ่งจะประสานไปยังรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีอีกครั้งหนึ่งว่าจะนัดพบกันที่ไหน
"ส่วนตัวแล้วคงไม่ไปพบที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี หากจะพบก็ขอพบกันที่ร้านกาแฟสักร้านหนึ่งร้านไหนก็ได้ในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ส่วนจะหยุดเคลื่อนไหวตามที่รอง ผวจ.กาญจนบุรีร้องขอหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสมาชิกส่วนใหญ่ ซึ่งตนไม่สามารถตัดสินใจเองได้เพียงลำพัง"