xs
xsm
sm
md
lg

สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว พร้อมเดินหน้าเข้าสู่เออีซี(ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอาทร ช่วยณรงค์ ประธานที่ปรึกษาสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ จ.ฉะเชิงเทรา
ฉะเชิงเทรา - สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดึงปัจจัยการผลิตราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ลดต้นทุน ชี้เป็นความได้เปรียบที่รัฐบาลควรให้การสนับสนุน



วันนี้ (29 ต.ค.) นายอาทร ช่วยณรงค์ ประธานที่ปรึกษาสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้นแบบ ก่อตั้งขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย กล่าวว่า สหกรณ์พร้อมด้วยหน่วยงานในกลุ่ม 5 จังหวัดเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว ได้เตรียมแผนงานไว้ก่อนที่ก้าวไปสู่ยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) แล้ว

สำหรับ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ทำแผนโรดโชว์กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน 5 ประเท เช่น กัมพูชา ลาว เวียดนาม พม่า และจีน เน้นการทำงานเชิงรู้ รุก รับ หรือการรู้เขารู้เรา ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าจะต้องทำอะไร จะตั้งรับอย่างไร และจะรุกอย่างไร โดยในปี 2556 สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่และส่วนราชการ รวมถึงหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ได้ร่วมกันเดินทางไปทำโรดโชว์ เพื่อเปิดตัวและลงนามความร่วมมือเป็นเมืองคู่แฝดร่วมกันกับเพื่อนบ้าน 5 ประเทศมาแล้ว

นายอาทร กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2557 ได้นำคณะนักธุรกิจโดยเฉพาะผู้เลี้ยงไก่ไข่ เดินทางไปลาว ที่แขวงจำปาสัก เมืองปากเซ และลงนามร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง และข้าว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักผลิตอาหารสัตว์ที่มีราคาที่ถูกกว่า นอกจากนี้ ยังจะไดมีความร่วมมือนด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม และวิชาการ ซึ่งผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือร่วมกับทางลาว ระหว่างผู้เลี้ยงไก่ไข่ของไทย กับผู้ปปลูกข้าวโพด และมันสำปะหลังของลาว ซึ่งเราจะรับซื้อสินค้าภาคเกษตรกลุ่มวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามา จะทำให้ต้นทุนด้การผลิตอาหารสัตว์ถูกลง ถือว่าเป็นความได้เปรียบของกลุ่มสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ในการเดินหน้าเข้าสู่ยุคเออีซี

“เมื่อต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ถูกลงก็จะสามารถที่จะส่งไข่ไก่ไปขายแข่งขันในประเทศเพื่อนบ้านได้ในราคาที่ถูกลง ขณะที่ประเทศกัมพูชาเอง ทางรัฐบาลได้กำหนดพื้เขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมารองรับเออีซี และจุดที่อยู่ใกล้กับเรา คือ ด้าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งสินค้านั้นจะเป็นกลุ่มพืชไร่ ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด”

นายอาทร กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางภาครัฐได้ปิดกั้นกลุ่มสินค้าพวกนี้ไว้ แต่ก็ยังมีการลักลอบนำเข้ามาแบบใต้ดิน แต่การที่ผู้เลี้ยงไก่ไข่ไปทำข้อตกลง ก็เพื่อต้องการทำให้ถูกต้อง ผ่านด่านศุลกากรเข้ามา จะทำให้ได้แหล่งวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีต้นทุนต่ำด้วย และสามารถส่งไข่ไก่ และเนื้อสัตว์ กลับเข้าไปขายยังในประเทศเพื่อนบ้านได้อีก ซึ่งความจริงราคาไข่ไก่ในเพื่อนบ้านสูงถึงฟองละ 7 บาท

สำหรับความกังวลใจหากนำสินค้าเกษตรจากเพื่อนบ้านเข้ามา จะส่งผลกระทบต่อพืชไร่ภายในประเทศนั้น เชื่อว่าการบริหารงานโดยกลุ่มชุมนุมสหกรณ์จะสามารถดูแลกันเอง เช่น หากราคาภายในประเทศช่วงต้นฤดูมีราคาถูก เราก็จะช่วยซื้อเพื่อเก็บรวบรวมเอาไว้ใช้ตลอดทั้งปี ร่วมกับสินค้าที่นำเข้ามาจากเพื่อนบ้าน ด้วยการซื้อราคานำตลาดขณะนั้นให้สูงขึ้นมาบ้าง เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ เมื่อรวบรวมวัตถุดิบได้ในราคาที่ถูกกว่า ก็สามารถรวบรวมเพื่อส่งออกได้ หรือผลิตเป็นอาหารสัตว์ส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการได้อีก เช่น มาเลเซีย และจีน ที่มีการเลี้ยงไก่ไข่เช่นกัน

นายอาทร กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยปิดประตูสินค้าเกษตร ทำให้สินค้าจากประเทศลาว และกัมพูชา ส่งเข้ามายังประเทศไทยไม่ได้ แต่ส่งไปขายเวียดนามแทน ซึ่งยากลำบากกว่าการส่งเข้ามายังไทย จึงอยากขายให้ไทยมากกว่า แต่เมื่อยังเข้าไม่ได้ เวียดนามจึงเป็นผู้รวบรวมสินค้าเหล่านี้ แล้วส่งไปขายยังประเทศจีน และมาเลเซีย ทำกำไรได้อีกต่อหนึ่ง แทนที่จะเป็นประเทศไทยเป็นผู้รวบรวม และส่งขาย

“ทำไมเราไม่ใช้ระบบสหกรณ์ หรือชุมนุมสหกรณ์เข้ามาเป็นผู้รวบรวมสินค้า ด้วยการนำของใต้ดินขึ้นมาบนดิน เมื่อเกษตรกรเดือดร้อนจากกลุ่มพ่อค้ารายใหญ่ๆกดราคา เราก็จะช่วยซื้อพยุงราคา ถือเป็นอีกทางหนึ่งที่เราทำได้ หากได้สินค้าจากเพื่อนบ้านราคาถูก ก็จะทำให้ราคาต้นทุนของเรานิ่งขึ้น และราคาไข่ไก่ก็จะไม่ขยับสูงขึ้นด้วย ขณะที่ผ่านมา ไข่ไก่ก็เป็นตัวชี้วัดดัชนีของรัฐบาลทุกรัฐบาล มักจะถูกสื่อมวลชนนำมายกเป็นตัวเปรียบเทียบว่าไข่รัฐบาลไหนแพง ไข่รัฐบาลไหนถูก”
ไก่ไข่  ที่ จ.ฉะเชิงเทรา เลี้ยงเป็นจำนวนมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น