บุรีรัมย์ -ประมงบุรีรัมย์เตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง และบ่อดินเกือบ 2 หมื่นรายระวังโรคระบาดและปลาน็อกตายช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงทั้งหนาวเย็นและฝนตก พร้อมแนะควรลดปริมาณอาหาร โรยปูนขาวรอบบ่อเพื่อลดความเสี่ยง
วันนี้ (23 ต.ค.) นายจิรพงษ์ นุตะศะริน ประมงจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ได้แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาทั้งในเชิงพาณิชย์และเพื่อบริโภคที่แจ้งขึ้นทะเบียนไว้กว่า19,200 ราย ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ ให้หมั่นดูแลรักษาสุขภาพสัตว์น้ำและปลาทั้งในกระชังและบ่อดิน ในช่วงที่มีสภาพอากาศแปรปรวนหนาวเย็นลง และบางพื้นที่มีฝนตก เพราะสภาพอากาศดังกล่าวจะทำให้ปลากินอาหารน้อย มีภูมิต้านทานต่ำ มีสุขภาพอ่อนแอ เอื้อต่อการเกิดโรคระบาดได้ง่าย และเป็นแผลตามลำตัวที่เกิดจากแบคทีเรีย โดยจะพบทุกปีในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น และสร้างความหายนะให้แก่เกษตรกรในหลายพื้นที่
ดังนั้น เกษตรกรควรป้องกัน โดยการนำปูนขาวหรือเกลือมาละลายน้ำเทลงในบ่อ บ่อละ 50-60 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ ทั้งไม่ควรสูบน้ำเข้าออกภายในบ่อ และไม่ควรย้ายหรือลำเลียงสัตว์น้ำไปยังที่อื่นโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งให้ลดปริมาณอาหารในช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำ เนื่องจากปลาเกิดความเครียดกินอาหารน้อย อาหารที่เหลือจะเกิดเน่าเสียเป็นกรดแก๊ส น้ำขาดออกซิเจน ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำที่เลี้ยงไว้ช็อกตายได้
หากเกษตรกรรายใดพบปลาในบ่อตายผิดปกติที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นโรคระบาด ให้ตักออกจากบ่อแล้วรีบทำลาย ห้ามนำไปรับประทานเพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และไม่ควรนำไปทิ้งตามสระ หรือคลองน้ำธรรมชาติ จากนั้นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอ หรือสำนักงานประมงจังหวัดเพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบควบคุมป้องกันเชื้อโรคอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง
นอกจากนี้ ขอให้ผู้เลี้ยงปลาทั้งในกระชัง และบ่อดิน รีบมาแจ้งขึ้นทะเบียนที่ประมงจังหวัด หรืออำเภอให้ถูกต้อง เพราะจากการสำรวจยังมีเกษตรกรอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้มาขึ้นทะเบียน ซึ่งหากเกิดภัยพิบัติ หรือโรคระบาดต่างๆ ผู้ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะเสียสิทธิไม่ได้รับการชดเชยช่วยเหลือจากภาครัฐ