บุรีรัมย์ - ประมงบุรีรัมย์เตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในจังหวัดกว่า 20,500 ราย ระวังโรคระบาดและปลาน็อกตายช่วงอากาศแปรปรวนทั้งหนาวเย็นและฝนตก พร้อมแนะควรลดปริมาณอาหาร โรยปูนขาวรอบบ่อเพื่อลดความเสี่ยง ชี้หากพบปลาตายผิดปกตให้รีบนำไปทำลายทิ้งและแจ้ง จนท.ป้องกันระบาดเป็นวงกว้าง
วันนี้ (16 ธ.ค.) นายจิรพงษ์ นุตะศะริน ประมงจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ได้แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาทั้งในเชิงพาณิชย์และเพื่อบริโภคที่แจ้งขึ้นทะเบียนไว้กว่า 20,500 ราย ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ ให้หมั่นดูแลรักษาสุขภาพสัตว์น้ำและปลาทั้งในกระชังและบ่อดิน ในช่วงที่มีสภาพอากาศแปรปรวนหนาวเย็นลง และบางพื้นที่มีฝนตก เพราะสภาพอากาศดังกล่าวจะทำให้ปลากินอาหารน้อย มีภูมิต้านทานต่ำ มีสุขภาพอ่อนแอ เอื้อต่อการเกิดโรคระบาดได้ง่าย และเป็นแผลตามลำตัวที่เกิดจากแบคทีเรีย โดยจะพบทุกปีในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น และสร้างความหายให้แก่เกษตรกรในหลายพื้นที่
ดังนั้น เกษตรกรควรป้องกัน โดยการนำปูนขาวหรือเกลือมาละลายน้ำเทลงในบ่อ บ่อละ 50-60 กิโลกกรัมต่อ 1 ไร่ ทั้งไม่ควรสูบน้ำเข้าออกภายในบ่อ และไม่ควรย้ายหรือลำเลียงสัตว์น้ำไปยังที่อื่นโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งให้ลดปริมาณอาหารในช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำ เนื่องจากปลาเกิดความเครียดกินอาหารน้อย อาหารที่เหลือจะเกิดเน่าเสียเป็นกรดแก๊ส น้ำขาดออกซิเจน ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำที่เลี้ยงได้
ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดพบปลาในบ่อตายผิดปกติที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นโรคระบาด ให้ตักออกจากบ่อแล้วรีบทำลาย ห้ามนำไปรับประทานเพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และไม่ควรนำไปทิ้งตามสระ หรือคลองน้ำธรรมชาติ จากนั้นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอ หรือสำนักงานประมงจังหวัด เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบควบคุมป้องกันเชื้อโรคอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง
“นอกจากนี้ขอให้ผู้เลี้ยงปลาทั้งในกระชัง และบ่อดิน รีบมาแจ้งขึ้นทะเบียนที่ประมงจังหวัด หรืออำเภอให้ถูกต้อง เพราะจากการสำรวจยังมีเกษตรกรอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้มาขึ้นทะเบียน ซึ่งหากเกิดภัยพิบัติหรือโรคระบาดต่างๆ ผู้ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะเสียสิทธิไม่ได้รับการชดเชยช่วยเหลือจากภาครัฐ” นายจิรพงษ์กล่าว